Dec 26, 2007
ร่วมทุกข์
Dec 26, 2007
คนร่วมสุขมีเยอะแล้ว
รับสมัครคนร่วมทุกข์ครับ
Dec 26, 2007
คนร่วมสุขมีเยอะแล้ว
รับสมัครคนร่วมทุกข์ครับ
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 1:10 AM 0 comments
I have no feeling
I have no pain
I have no love
I have nothing.
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 1:01 AM 1 comments
Dec 15, 2007
มีขายในไทยแล้ว!!! ราคาถูกด้วย ซื้อมาจาก Big-C ราคา 99 หรือ 199 นี่แหละ
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 9:50 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Movies
Dec 13, 2007
ช่วงนี้หงุดหงิดมากๆ กับ truehits และพวก SEO ขายตรงทั้งหลายแหล่ในบ้านเรา
Search หาอะไรก็เจอแต่ไอ้พวก "คลิปเด็ด คลิกเลย"
ฮึ่ม วันนี้ Search หา "Authorware 7" ก็มี "เมียผมนอกใจเพราะโดนรุม" โผล่มา
คลิกเข้าไปดู (อ๊ะๆ แค่อยากรู้ว่าทำไมแม่งถึงขึ้นมาได้)
โห แม่งเอา keyword ใส่ ไว้ส่วนหัวของหน้าเป็นตับ
เจริญหละ งี้ต่อไป search หายาสีฟันแล้วได้หมาจะทำไงวะ
ไอ้พวกนี้นี่เห็นแก่เงินง่ายๆอย่างเดียว ชอบทำลายสิ่งดีๆ
แล้วดูพวก SEO ขายตรงมันทำนะ โดน Google แบน ก็ด่า Google ทั้งๆที่ตัวเองทำผิด แถมมาถามกันในเว้บบอร์ด "พี่ๆ ผมโดนแบน จะเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนที่อยู่ดีไหม แต่ที่อยู่ผมมีไม่เยอะทำไงดี"
ขอด่าหน่อยเถอะ ไอ้เตี้ยเอ๊ย!!!
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 11:23 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: บ่นๆ
Dec 10, 2007
เบื่อฝันร้าย
ที่เหมือนจริงจนน่ากลัว
เมื่อไหร่มันจะหายไป
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 7:57 AM 1 comments
Nov 30, 2007
เมื่อเช้าตื่นมา จะโทรไป good morning คุณแฟน
กดเบอร์ไป
ตู๊ด ตู๊ด
"ขออภัยค่ะ เลขหมายของท่าน มีเหตุจำเป็นต้องระงับการให้บริการชั่วคราว"
ซึ่งถ้าใครเคยค้างค่าโทรศัพท์จะเข้าใจดี ว่าเหตุจำเป็นนั้นคือ "คุณไม่ได้จ่ายตังค่ะ" ซึ่งทำไมไม่บอกมาให้ชัดๆก็ไม่รู้ หะๆ
(ถ้าให้เดา ก็คงเพราะว่า น่าจะมี "เหตุจำเป็น" อื่นๆด้วย เลยใช้ error message ซ้ำ เพื่อประหยัดค่าอัดเสียง แต่เกิดมาก็ไม่เคยเจอเหตุอื่นซักที)
ฮึ่ย ไรว้า จ่ายไปแล้วนี่หว่า จ่ายแบบทันสมัยด้วย www.scbeasy.com
โทร 1100 ทันที หงุดหงิดหงุดหงิด
"สวัสดีครับ 02-xxx-xxxx" เพื่อไม่ให้เสียเวลา ผมรีบบอกเบอร์
คุยไปคุยมาทางนั้นก็บอกว่าไม่เห็นยอดเงินที่โอน และถามผมว่าโอนที่ไหน ผมก้บอกไปว่าผ่านเน็ท เป็นบริการของธนาคาร และผมยังถามไปว่า "ทศท. คือ TOT ใช่ป่าว"
"ใช่ค่ะ"
"อืม งั้นผมขอโทรไปหาธนาคารก่อนละกันครับ"
โทรไป 02-777-7777 ฟังเสียงพี่เบิร์ดได้พักนึง ก็ได้คุยกับโอปะเรเต้อ
"สวัสดีครับ เลขที่บัญชี xxx-xxxxx"
แล้วก็บอกไปว่าโอนเงินจ่ายค่าโทรศัพท์ไป แล้วยังมาโดนตัดอีก ดูเงินในบัญชีก็ออกไปแล้ว ตกลง เงินผมหายไปไหน ฉอดๆๆๆ
"ใจเย็นๆค่า เมื่อกี้คุณบอกว่าโอนผ่าน scb easy net เหรอคะ เพราะทางเราโอนเงินจ่ายค่าโทรศัพท์ของ TOT ยังไม่ได้นะคะ ถ้าจะจ่ายต้องเข้าเว็บ TOT แล้วใช้ user name ของ scb จ่ายได้ค่ะ"
"อ้าว ก็แล้วนี่มันอะไร ทศท. ... เอ๊ะ อ้าว เอ่อ ... กศท. คอร์เปอร์เรชั่น นี่นา แหะๆ"
"ค่ะ กศท. คอร์เปอร์เรชั่น = CAT ค่ะ ไม่ใช่ TOT นะคะ"
แป่ว.....
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 2:17 PM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: บ่นๆๆ
Nov 28, 2007
Saying nice things...
Thinking slowly...
Smiling...
Laughing...
Does it matter?
I guess not.
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 1:04 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Self
Nov 21, 2007
เขียนโดย: Joy เมื่อ 12:56 PM 0 comments
Nothing gives peace of mind better than
the feeling of doing no wrong, having no sins,
and having no secrets to hide.
..peace...
เขียนโดย: Joy เมื่อ 12:32 PM 0 comments
Nov 15, 2007
You believe in those lies they gave you.
All the sweet words.
I gave you the truth, showed you the way, even pulled your hands.
I'm nothing to you.
I was there for you but you just ignored me.
You miss them.
Where were they when you're suffering?
Where was I?
In your eyes I was never there.
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 1:24 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Self
Nov 13, 2007
วันนี้เป็นตัวแทนลองกองไปคุยกับชาวต่างชาติที่ร่วมทุนกับ Powerline
ก็อธิบายและสาธิตโปรแกรม Pojjaman.CBS
เพราะเขากำลังหาโปรแกรมควบคุมธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระดับ enterprise ไปใช้ที่ Qatar
โปรแกรมเราทำใช้ในไทยแต่แอบหวังว่าโมเดลมันน่าจะขายเมืองนอกได้
วันนี้ได้คำตอบ...
Present จนจบเรื่องรายงาน มีคำนึงที่ออกมาจากปากชาวต่างชาติ
"This is what we want."
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 11:55 PM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Tales from Longkong
Nov 9, 2007
Look at the trees and the birds,
look at the clouds and the stars...
you will be able to see that
the whole existence is joyful.
Everything is simply happy.
Trees are happy for no reason;
they are not going to become
prime ministers or presidents
and they are not going to become rich
and they will never have any bank balance.
Look at the flowers - for no reason.
It is simply unbelievable how happy flowers are.
from Osho
เขียนโดย: Joy เมื่อ 12:36 PM 0 comments
Nov 6, 2007
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 9:36 AM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Plantitude, Web Design
Nov 5, 2007
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 4:06 AM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Plantitude, Web Design
Nov 3, 2007
คงรู้อยู่บ้างว่า ควรเติม ช่วงที่อากาศเย็น
แต่อยากบอกอีกที ในภาวะที่ราคามันพุ่งกระฉูด แบบไม่มีแววจะลงเช่นนี้
เหตุผลทางวิทยาศาสตร์
1.การเติมน้ำมันมีหน่วยวัดเป็นลิตรซึ่งเป็นหน่วยของ ปริมาตร
2.อุณหภูมิแปรผันตรงกับปริมาตร(หรืออีกนัยหนึ่งก็คือความหนาแน่นนั่นเอง)
อุณหภูมิยิ่งสูง ปริมาตร(ความหนาแน่น)ก็จะยิ่งสูงตาม แต่ปริมาณคงที่
ดังนั้นหมายความว่าน้ำมัน 1 ลิตรที่อุณหภูมิ25 C(ช่วงตี 4 - 7โมงเช้า)อาจมีน้ำหนัก 0.8792 ก.ก.
แต่ น้ำมัน 1 ลิตรทีอุณหภูมิ 33 C(ช่วง 11 โมงเช้า -5โมงเย็น)อาจมีน้ำหนักแค่ 0.7956 ก.ก.
ดังนั้นเมื่อเติมน้ำมันช่วงเวลาที่อากาศเย็น
ในจำนวนเงินเท่าเดิมแต่จะได้น้ำมันเพิ่มขึ้นเองอั ตโนมัติโดยเฉลี่ยถึง 1.5 - 2 ลิตร (เมื่อเติมประมาณ 20 ลิตร)
เขียนโดย: Joy เมื่อ 10:37 PM 0 comments
นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
มองไปบนตึกหนึ่ง ที่มีฟิตเนตขนาดใหญ่ มีคนวิ่งๆ เต็มไปหมด
นี่ถ้าสามารถแปลงพลังงานที่คนใช้ออกกำลังกายไปกับเครื่องนั่น
มาใช้เป็นไฟฟ้า หรือพลังงานอื่นๆได้
ก็น่าจะดีแฮะ
คงจะมีคนคิดแล้ว แต่มันคงทำยาก หรือไม่คุ้มละมั้ง
ฟุ้งซ่านไปเรื่อย
เขียนโดย: Joy เมื่อ 10:28 PM 0 comments
Nov 2, 2007
After all things we'd been through.
I wonder why ...
Why you'd ever done that to me.
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 8:30 AM 0 comments
Oct 29, 2007
คือว่า พยายามหาร้านนั่งกัน
ผมลงทุนเรียกมอเตอร์ไซค์ตระเวนซอยเอกมัยจนวกออกเพชรบุรีเข้าทองหล่อ
... ไม่เวิร์กๆ ...
แถมที่ฮาคือ มอเตอร์ไซค์ไม่ใช่คนแถวนั้น
เอาเข้าไป
ทำไงดีวะ
สิ้นคิดมาก บอกมอ'ไซค์จอด แล้วผมก็ลงไปถามคนขายปลาหมึก
ครับ คนขายปลาหมึกปิ้งนี่แหละ
"พี่ๆ มีร้านนั่งสบายๆ ดนตรีเบาๆ แบบ ไม่ดังมาก (เออสิวะ) ไหม?"
คนขายปลาหมึกแกรู้ว่ะ!
"อ๋อมีๆ เข้าซอยธารารมณ์นะ ไปหน่อยนึงจะเจอจักรยานคันใหญ่จอดอยู่ ร้านนั้นแหละ"
อืมๆ อะไรวะ งงๆ
จอยมาพอดี เลยขับรถกันไปหาซอย นี่ไง ซอยธารารมณ์ อ้าว ... มันซอยธารารมณ์ 2 นี่นา ไม่ใช่มั้ง ตรงไปอีกหน่อยคงมี ธารารมณ์นะ ครับ ตรงไป ... อ้าว ห่า ซอยทองหล่อ xx แป่ว กลับรถ
เข้าซอยธารารมณ์ 2 ก็ได้วะ โห ซอยเปลี่ยว ไม่น่าจะใช่
อ๊ะ นั่นไง จักรยาน ...
โอว ไอ้เราก็นึกไว้ประมาณว่า จักรยานประดับร้านเท่ๆ เหมือนที่บางร้านเอาตุ๊กๆมาแปะบนหลังคา
ป่าวครับ จักรยาน ตัวจริงเสียงจริง จักรยานแม่บ้าน สีแดงด้วย จอดอยู่ตรงข้ามร้าน
เอากะมันสิ หะๆๆ เกิดวันไหนพี่แกขี่จักรยานไปซื้อกับข้าว เรามิต้องไปกินเหล้ากันในตลาดสดรึ
จอดรถ ลงมาด้อมๆมองๆหน้าร้าน หิวข้าวแล้วด้วย
อืม ร้านดูเป็นแนว Retro นะ นั่นไงชื่อร้าน Shades of Retro
เปิดประตูเข้าไป เจอกลุ่มคนนั่งบริเวณโซฟา ดูฮาเฮเกินจะเป็นแขก น่าจะเป็นคนจีน ฮึ่ย! ไม่ช่าย... น่าจะเป็นเจ้าของร้านนั่งกินกันเอง
"โทษครับ นี่ร้านอาหารใช่ไหมครับ" ผมถาม
"ไม่ใช่ครับ นี่เป็นผับ"
อืม โดนแล้วไหมล่ะ
ยัง ยังไม่จบแค่นั้น
"แล้วมีข้าวกินป่าวครับ" ผมตื๊อ
"มีแต่ข้าวโพดครับ"
จี๊ด... เอาไงดีวะ กูจะโกรธ หรือกูจะขำดีวะ ขำละกันวะ
ผมเลยยิ้มๆตอบไป
"แล้วมีดนตรีเล่นไหมครับ" ขณะนั้นเงี่ยหูฟังก็เป็นเพลง Jazz ท่าทางเข้าทีดีที่เปิดอยู่
"ไม่มีครับ มีแต่นักดนตรี"
... ฮึ่ม ...
"มีแต่คอกเทลครับ ที่นี่คอกเทลอร่อยมาก แต่แนะนำให้ไปทานข้าวกันมาก่อนครับ"
อา ในที่สุดก็มีคำเชิญชวนว่ะแฮะ รู้สึกถูกใจแว้บขึ้นมาเลยตอบไปว่า "งั้นเดี๋ยวมาครับ ..."
Shades of Retro อยู่ซอยธารารมณ์ 2 ทองหล่อ เข้าไปประมาณ 100 เมตร มีจักรยานสีแดงจอดเด่นเป็นสัญลักษณ์ ร้านเงียบๆไม่มีดนตรีเล่น แต่เปิดเพลง Jazz ฟังกึ่งรื่นกึ่งครึ้ม มีค็อกเทลและบาร์เทนเดอร์ น้องเด็กเสิร์ฟอัธยาศัยดี เจ้าของร้านก็อัธยาศัยดี เป็น pub ที่ no smoking นั่งจิบเบียร์/ค็อกเทลสบายจมูก/ตามากๆ
ร้านนี้พัฒนามาจากการขายของ retro ก้เลยมีแต่ของพวกนี้เต็มไปหมด สไตล์ร้านคือ วางของตรงไหนดีวะ ให้บรรยากาศเหมือนนั่งในบ้านตัวเองแล้วมีแขกมากินเหล้าด้วย แขกที่มาเป็นวันรุ่นประมาณมหาลัย ถึงคนทำงาน 2-3 ปีที่ดูฮิปๆหน่อย
ลองไปนั่งกันดูนะ
แถมลิงค์:
http://www.lifeandhome.net/ShowContent.asp?ContentID=511
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 12:23 AM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Restaurants
Oct 25, 2007
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 11:44 PM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Videos
ในโลกนี้ล้วนประกอบด้วยการเลือก และไหลไปตามทางเลือก
trade-off เต็มไปหมด
แต่ในความคิดเรามักจะเป็นความอยากได้ทั้งหมด ทุกอย่าง
I want it all, I want it all, I want it all, and I want it now!
Queen ว่าไว้
ขรับ ... ฝันไปเถอะครับ
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 11:20 PM 2 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: บ่นๆๆ
Oct 24, 2007
จอยไปเวียตนามมาแหละ
แต่ไม่ยอมเอารูปมา post ซักที
หรือจะรอให้เรา post ให้หว่า???
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 10:32 PM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: บ่นๆๆ
Oct 21, 2007
ประเทศนี้...
การค้าประเวณีผิดกฎหมาย แต่ถ้าโบกแท็กซี่แล้วบอกว่าจะไปเที่ยวผู้หญิง แท็กซี่จะพาไปได้
หนังโป๊ ผิดกฎหมาย แต่ถ้าอยากได้ก็มีให้ซื้อได้ง่ายกว่าเดินไปเซเว่น
ไม่มีการซื้อเสียง แต่ผู้ใหญ่บ้านเอาเงินมาให้พ่อแม่ผมตั้งแต่จำความได้
ไม่มีม็อบจัดตั้ง แต่ป้าหวานคนบ้านเดียวกันบอก "เสียดายตอนนี้อยู่กรุงเทพ เพราะที่อุทัยเขาบอกว่าถ้าใครใส่เสื้อเหลืองแล้วไปที่ ... จะได้ตังคนละ 300 บาท"
ถุย
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ปัญหา แต่อยู่ที่การไม่ยอมรับความจริงต่างหาก
เช่น จะยอมรับไปเลยไหมว่ามีการซื้อเสียง แล้วหาทางจัดการ อย่ามาบอกว่า จังหวัดนี้ไม่มีการซื้อเสียง ไอ้ห่า
เราก็ไม่ได้โง่ขนาดจะโดนตัวเองหลอกได้ง่ายขนาดน้าน ตื่นๆๆ
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 12:10 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: บ่นๆๆ
Oct 17, 2007
Björk - "Earth Intruder"
Album: "Volta" (2007)
We are the earth intruders
We are the earth intruders
Muddy with twigs and branches
A haaa!
Turmoil!
Carnaaaaage!
Here come the earth intruders
We are the paratroopers
The beat of sharpshooters
Comes straight from voodoo
With our feet thumbing
With our feet marching
Grinding the skeptics into the soil
Shower of goodness
coming to end the doubt,
pouring over
Shower of goodness
coming to end
We are the earth intruders
We are the sharpshooters
Flock of parachuters
Necessary voodoo
I have guided my bones
through some voltage
And love them still
And love them too
Metallic
Carnage
Furiousity
Feel the speed!
We are the earth intruders
We are the sharpshooters,
Flock of parachuters
Necessary voodoo
There is turmoil out there
Carnage! Rambling!
What is to do but dig
Dig bones out of earth
Mud graves
Timber
Morbid trenches
Here come the earth intruders
There’ll be no resistance
We are the cannoneerers
Necessary voodoo
And the beast with many heads
and arms rolling
Steamroller!
We are the earth intruders
We are the earth intruders
Muddy with twigs and branches
Forgive this tribe!
We are the earth intruders
We are the earth intruders
Muddy with twigs and branches
We are the earth intruders
Muddy with twigs and branches
We are the earth intruders
A haa!
We are the earth intruders
Muddy with twigs and branches
Marching!
We are the earth intruders
Muddy with twigs and branches
Marching!
March
March
March
We are the earth intruders
Muddy with twigs and branches
Marching voodoo!
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 7:29 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Lyrics
Oct 16, 2007
Aerosmith
I'm alone
Yeah, I don't know if I can face the night
I'm in tears and the cryin' that I do is for you
I want your love - Let's break the walls between us
Don't make it tough - I'll put away my pride
Enough's enough I've suffered and I've seen the light
CHORUS:
Baby
You're my angel
Come and save me tonight
You're my angel
Come and make it all right
Don't know what I'm gonna do
About this feeling inside
Yes it's true - Loneliness took me for a ride
Without your love - I'm nothing but a begger
Without your love - a dog without a bone
What can I do I'm sleeping in this bed alone
CHORUS
Come and save me tonight
You're the reason I live
You're the reason I die
You're the reason I give
When I break down and cry
Don't need no reason why
Baby, Baby
CHORUS
You're my angel
Come and save me tonight
you're my angel
Come and take me allright
Come and save me tonight, Come and save me tonight, Come and save me tonight,
Come and save me tonight, Come and save me tonight
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 9:48 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Lyrics
Oct 14, 2007
I'm alone.
Thinking of you.
Thinking of us.
Miss your smiles.
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 10:27 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Self
Oct 13, 2007
ฮ่าๆๆๆ
สาวๆ ผมเป็นโสดจนถึงวันอังคารเด้อ เรามากิ๊กกันเถอะ
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 12:04 PM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Self
Oct 11, 2007
I have a problem bringing my domain back online (so that you can see the pictures that have disappeared for so long from this blog).
The thing is, I cannot log-on to GoDaddy!
They kept saying my account was wrong so I decided to change the password. After following their instructions and log-on again, viola! my account was LOCKED.
Damn...
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 8:36 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: บ่นๆๆ
I uploaded the new website of Longkong Studio last night.
No where near perfection but I'll work on it.
Take a look!
Longkong's New website
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 8:33 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Tales from Longkong
Thailand ICT Awards 2007
Runner-up : Start-Up company Division
Longkong Studio Co., Ltd.
October 9, 2007
Runner-up but second to none 'cause there is no winner in this category!
There are 2 runner-up -- us and a company name Decisionsolutions.
ดูข่าวที่เว็บลองกอง
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 8:22 AM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Tales from Longkong
Oct 8, 2007
เรื่องจาก http://www.businessthai.co.th/
ด.ต.วิชัย สุริยุทธ ปัจจุบันเป็นผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สภอ.ปรางค์กู่ จังหวัดศรีษะเกษ เป็นอำเภอที่ถูกจัดอันดับให้เป็นอำเภอยากจนที่สุดในประเทศ อดีตเคยมีข่าวว่าเด็กอดอยากถึงขนาดต้องกินดิน ..
ทุกวันก่อนและหลังเลิกเวลางาน นายดาบตำรวจวิชัย จะบิดมอเตอร์ไซค์ขนกล้าไม้ไปปลูกตามข้างถนน ลานวัดป่าช้า ที่ดินสาธารณะ ชายขอบที่ดินเป็นแนวรั้ว มาเป็นเวลาถึง18 ปี ในผืนดินที่ไม่ใช่ของเขา ในสายตาของชาวบ้านที่เรียกเขาว่า “คนบ้า”
แรกๆ ชาวบ้านก็หัวเราะเยาะ แต่เดี๋ยวนี้ชาวบ้านได้เก็บกินดอกผลที่เขาทำเอาไว้ นายดาบวิชัยไม่ได้หวังอะไรมากไปกว่าการทำบุญเพื่อส่วนรวม ในทัศนะของเขา
“...จะพัฒนาใครเขา ต้องพัฒนาตัวเราก่อน เพื่อให้ชุมชนนำไปเป็นตัวอย่าง ที่เลือกปลูกต้นไม้เพราะให้เราพึ่งตนเองอย่างมีศักดิ์ศรีโดยไม่เบียดเบียนใคร ขอให้มีความขยันอย่างฉลาด ไม่ข้องแวะอบายมุข เป็นภารกิจที่ต้องร่วมกันแก้ไข เราก็จะมีเพื่อนบ้านที่ดี...”
เขาเลือกยางนา พญาไม้เนื้ออ่อน ที่โรยหว่านเมล็ดพันธุ์เป็นที่อยู่ของนกกา พอเติบใหญ่ก็นำมาแปรรูปสร้างบ้านเป็นพื้น เป็นฝาบ้าน ต้นตาลคือพันธุ์ไม้ต่อมาที่ทนต่อสภาพแห้งแล้งในพื้นที่ได้ดี ยังมีต้นคูน เป็นไม้เนื้อแข็งใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ เมล็ดพันธุ์ที่เขาเฝ้าเก็บเมล็ดเพาะเป็นต้นกล้า แบกจอบขุดดินไปตามที่สาธารณะไปทั่วทั้งหมู่บ้าน และยังมีการทำนาปีลักษณะของไร่นาส่วนผสมเก็บผลผลิตกินได้ตลอดทั้งปี
“...ต้นถ่อนโตเร็ว เป็นไม้แปรรูป เก็บใบกินได้ น้ำมันต้นยางนาไปผสมกับชัน ใช้ในการต่อเรือได้ ขณะที่ต้นตาลทนไฟลามทุ่งได้ดีเยี่ยม พอไฟมอดมันก็ฟื้นคืนสภาพขึ้นใหม่ได้ จะออกดอกให้ผลในอีก 2 ปีข้างหน้านี้ .....เปรียบได้ชีวิตคนกับต้นตาล ไม่ว่าจะล้มลุกคลุกคลานลงกี่ครั้ง ขอให้เผชิญหน้ากับปัญหา ท้อได้แต่อย่าถอย ยืนหยัดให้ได้เสมือนเช่นต้นตาล...”
“...ทำดีแล้วย่อมเกิดมรรคผล ก็ทำต่อไปเถอะครับอย่าไปท้อแท้ กาลเวลาพิสูจน์ได้ ผมมีความสุขในสิ่งที่ผมทำ ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใด ชาวบ้านมีอยู่มีกิน ผมก็ดีใจ”
วันนี้ชาวบ้านพร้อมใจกันลงมติ จากการที่เห็นถึงพลัง ความตั้งใจที่ไม่มีวันมอดของเขา โดยนำเป็นคำขวัญประจำอำเภอที่ว่า “ปรางค์กู่อยู่ในป่ายาง กลางดงตาล บานสะพรั่งดอกคูน บริบูรณ์ไร่นาสวนผสม”
เขียนโดย: Joy เมื่อ 12:27 AM 2 comments
Sep 29, 2007
กำลังจะเปลี่ยน Host ของลองกอง
แต่จะย้ายโดเมนไปไว้ host ใหม่เลยก็ยังทำเว็บใหม่ไม่เรียบร้อย
เลยเอา www.anassirk.com ไปยืมใช้ก่อน
หน้า blog นี้เลยโหลงโจ้งเช่นนี้ เพราะเดิมทีรูปภาพต่างๆล้วนอยู่ที่ anassirk.com ทั้งสิ้น
ทนๆเอาหน่อยละกัน (บอกตัวเอง)
ฮือๆๆ
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 10:53 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: บ่นๆๆ
Sep 22, 2007
สวยน้อยหน่อย mp3
แอน ธิติมา
อยากบอกเธอว่ารักๆๆๆๆ รักษาหุ่นด้วยนา
เอาไงก็เอาทำทุกอย่างเพื่อลดหุ่น แต่ทำยังไงฉันก็ได้แค่เกือบลุ้น
เธอรับได้ไหมก็มัน ได้แค่นี้หล่ะ เอางี้ดีไหมให้ฉันทำอย่างอื่นนะ
อย่างเธอให้รอฉันจะรอโดยไม่บ่น จะงอนให้น้อยและทำตัวให้มีเหตุผล
จะยอมไม่ค้านจะไม่ขัดเธอแล้วหล่ะ นะๆช่วยเน้นที่ใจดีกว่านะ
สวยน้อยหน่อยคงไม่ว่ากัน เห็นใจหน่อยทำทุกอย่างแล้ว
จะรักเธอมากหน่อยแทนก็แล้วกัน เห็นใจเถอะยอมกันหน่อยนะ
อยากบอกเธอว่ารักๆๆๆๆ รักษาหุ่นด้วยนา
ยอมใครไม่เป็นเพิ่งจะหัดคราวนี้แหละ ยังไงอย่างร้อยขอให้เธอช่วยแนะ
แค่เธอเข้าใจฉันก็คงเป็นปลื้มหล่ะ ว่าเพราะฉันรักฉันถึงทำให้เธอนะ
สวยน้อยหน่อยคงไม่ว่ากัน เห็นใจหน่อยทำทุกอย่างแล้ว
จะรักเธอมากหน่อยแทนก็แล้วกัน เห็นใจเถอะยอมกันหน่อยนะ
สวยน้อยหน่อยคงไม่ว่ากัน เห็นใจหน่อยทำทุกอย่างแล้ว
จะรักเธอมากหน่อยแทนก็แล้วกัน เห็นใจเถอะยอมกันหน่อยนะ
เอามาจาก www.siamzone.com/
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 4:43 PM 3 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Lyrics
Sep 19, 2007
ปิดแล้ว
ตัดสินใจไปแล้ว
คิดว่าตัดสินใจถูก
แต่ตอนนี้ก็ยังมึนๆ
สงสัยจะเร็วไปหน่อย
แต่ถ้าไม่ทำคงไม่ทำสักที
การทำงานที่ทำไปวันๆ
เพื่อให้หมดไปวันๆ
ได้กำไรไปวันๆ
แต่การจบงานแต่ละครั้ง
ก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย
เพียงทำไปเพราะต้องทำ เพราะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
เหนื่อยไม่เท่าไหร่
แต่ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม
ถามตัวเองอยู่เสมอว่าทำไมเราต้องมาทำสิ่งที่เราทำอยู่ เนี่ย
นี่เราล้มเหลวรึเปล่าเนี่ย
ไม่หรอกเนอะ เราเองก็รู้อยู่ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่
แต่ก็สับสน
หาเหตุผลให้ตัวเอง
แต่อย่างน้อยที่ผ่านมาก็ทำให้เราโตขึ้น
เรียนรู้สิ่งต่างๆ หลายสิ่ง
ได้มีเพื่อนร่วมงาน มีลูกน้องที่ดี
รวมถึงได้มีคนที่ไม่สามารถมองหน้ากันได้อีก
ผ่านไป
แล้วมันก็เป็นช่วงเวลานึงในชีวิต ที่ผ่านไป
เป็นความทรงจำของเรา
เอาล่ะ เดินต่อไป
ชีวิตเราจะเป็นยังไงต่อดีนะ
พรุ่งนี้ เริ่มทำอะไรดีล่ะ
เขียนโดย: Joy เมื่อ 10:49 PM 5 comments
Sep 18, 2007
กับคำว่า"พอ" จุดเริ่มต้นของความสุข
ผมคิดว่าอยู่ที่ การค้นหาตัวเองให้พบไม่ใช่เรื่องง่าย
บางคนใกล้ตายยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร
เพราะติดอยู่กับความหลง หรือติดอยู่กับกระแส อะไรก็ตาม
ผมก็เช่นกันเคยถูกชักจูงจากสังคม
จากเพื่อนให้ไปทำงานหลายๆ อย่าง แต่ไม่ว่าทำงานอะไรก็ตาม
ต้องทำด้วยความชอบ จึงจะประสบความสำเร็จ
และต้องรับผิดชอบต่องานให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ขณะเดียวกันไม่มีงานไหนราบรื่น
ไม่มีหรอกที่ตัวเราจะไม่เครียด หรือไม่มีความทุกข์ หรือไม่หงุดหงิด
อยู่ที่ว่าแก้ไขให้ดีขึ้นได้ไหม ถึงจะไม่ได้ทั้งหมด
แต่อย่าเลวลงก็เท่านั้นเอง นั่นคือการดำรง ชีวิตอยู่
จนเมื่อผมเข้าสู่วงการภาพยนตร์ ได้ไปถ่ายหนังตามสถานที่ต่างๆ
จึงค้นพบว่าจริงๆ แล้วตัวเองชอบทำ
งานอิสระและไม่จำเจ ไม่มีเวลาทำงานตายตัว และไม่เครียด
ทุกคนในกองถ่ายเป็นเพื่อนกันหมด
ตั้งแต่นั้นผมก็ติดอยู่กับงานแสดงมาตลอด
ซึ่งไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ตามเราต้องทำตัวให้อยู่ได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้
ไม่ใช่อยู่ได้ด้วยการเอาตัวรอด
เพราะการ เอาตัวรอดไม่ใช่วิถีทางที่ถูกต้องกับทุกอย่าง
แต่ด้วยการรักษา และเคารพมารยาทในการอยู่ร่วมสังคมการทำงาน
กับเพื่อนร่วมงานไม่แบ่งชั้นวรรณะ
ทุกคนมีความสำคัญในการทำงานเหมือนๆ กัน
เพียงแต่รับผิดชอบหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง
รวมทั้งการจัดระเบียบวินัยให้กับชีวิต ไม่ใช่ รับผิดชอบในการทำงานดี
แต่ไม่ดูแลตัวเอง ในเมื่อพ่อแม่ให้
ร่างกายมา ครบ32 ประการ ก็เป็นหน้าที่ที่เราต้องมีวินัยในตัวเอง
ไม่จำเป็นต้องสวย หล่อ หรือต้องใส่แบรนด์เนม
เพียงแค่ดูแลร่างกายให้สะอาด อยู่เสมอ
ต่อให้ใส่อะไรก็ดูดีทั้งนั้น
คนที่ทำงานหนักต้องพักผ่อนบ้าง
ไม่ใช่ทำงานจนสลบคาโต๊ะ คาเก้าอี้
หรือรอ ให้ป่วยก่อนแล้วค่อยไปหาหมอ
ขณะที่รถป้ายแดงกลับหมั่นเช็ดถูจนสี ถลอก
ทำไมจึงห่วงรถมากกว่าตัวเอง
เหมือนกับ ชีวิตได้มาฟรีก็เลยไม่ดูแล
ขอให้คิดสักนิดว่าชีวิตคนยืนยาวกว่าของใช้ เยอะ
ณ วันนี้ผมมาถึงจุดที่ตัวเองเพียงพอแล้ว
ได้ทำงานที่ชอบและได้มีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ตัวเองรัก
เสร็จงานกลับบ้านสวนที่จันทบุรี
อยู่กับความเรียบง่ายของธรรมชาติอยู่กับการปลดปล่อย
ไม่บังคับตัวเองว่าจะต้องกินอาหารเมื่อไร
นอนหรือตื่นเมื่อไร ผมกินอาหารวันละมื้อมา 8 ปี
จะกินก็ต่อเมื่อหิว และกินแค่พออิ่ม
ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ การพักผ่อนที่ดีที่สุดคือ นอนหลับ
และจะตื่นเมื่อร่างกายต้องการ ไม่ได้บังคับว่าต้องตื่นเพื่ออะไร
เพราะอะไรก็ไม่หนีเราไปไหน ต้นไม้ยังรอ บ้านก็ยังรอเราอยู่
ผมใช้ชีวิตอย่างนี้มาสามสิบปีไม่เคยรู้จัก ความเหงา พอคนงานกลับไปหมด
บ้านจะเงียบ ไม่มีคนอยู่ในสายตา
ผมปิดไฟ มองเห็นดาวเต็มท้องฟ้า นอนฟังเสียง จักจั่น
แค่นี้สำหรับผมก็พอแล้ว
ผมใช้ชีวิตอย่างนี้มาสามสิบปีไม่เคยรู้จัก ความเหงา พอคนงานกลับไปหมด
บ้านจะเงียบ ไม่มีคนอยู่ในสายตา
ผมปิดไฟ มองเห็นดาวเต็มท้องฟ้า นอนฟังเสียง จักจั่น
แค่นี้สำหรับผมก็พอแล้วนิรุตติ์ ศิริจรรยา
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 5:40 PM 2 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Things Around Us
Sep 17, 2007
หายไปนาน อีกแล้ว
กลับมา อีกแล้ว
เหนื่อยจัง
ตลกดี เมื่อ 2-3 ปีก่อน อยากข้ามเวลามาตอนนี้ เพราะตอนนั้นมันเหนื่อย
ตอนนี้ก็เหนื่อยอยู่ดีละฟะ
ตอนนี้ไม่อยากข้ามไปไหนแล้ว อยากไปเที่ยวภูเขา ทะเล น้ำตก แบบไม่ต้องเสียตังด้วยอะ
แล้วก็นอนพัก กระดิกพุง ซัก 2 เดือน แบบไม่ต้องเสียตังด้วย
เฮ้ย ตื่นๆๆ!!!
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 7:43 PM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: บ่นๆๆ
Sep 13, 2007
เป็นการ์ตูนที่ชอบที่ซู้ด!!!
แต่หาซื้อไม่ได้แล้ว (จริงๆซื้อครบแล้วนะเนี่ยแต่หายหมด)
ในระหว่างที่วิบูลย์กิจเจ้าของลิขสิทธิ์ยังไม่เลิกดอง (เราก็เข้าใจอะนะ ว่ามันเป็นเรื่องของธุรกิจ) ก็จะขอดาวโหลดมาอ่านแก้ขัดก่อนละกันนะ คงไม่ว่ากันนะครับ
ตอนนี้ได้มาเล่ม 1-20 ตั้งแต่เริ่มภาคโคทาโร่มาแล้วจนถึงภาคชมรมเชียร์ อ่านสนุกจังเลย (เป็นภาษาอังกฤษ แปลดีพอสมควร แต่ของไทยขำกว่านะ)
ว่างๆจะทำเป็น pdf ให้ download กันดีไหมเอ่ย
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 1:08 AM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Comics
Sep 11, 2007
เว็บไซต์ของหนังเรื่องนี้ (ถ้าอ่านภาษาญี่ปุ่นออกน่ะนะ)
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 8:12 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Movie
Sep 10, 2007
...
ไปดูด้วยความว่าง(??) และหวังนิดๆว่าจะสนุก
ปรากฏว่า สนุกเกินหวังไปมาก และผิดแนวจากที่คิด (พอดีไม่ได้รู้ plot มาก่อนแม้แต่น้อย) ตอนแรกคิดว่าหนังจะสว่างๆ กลายเป็น dark ซะขนาดนั้น
เล่าแบบไม่ spoil ก็คือเรื่องราวความฝันของเด็กหนุ่ม 3 คนที่รักมวยไชยา และอยากพาฝันนั้นไปให้ถึงฝั่ง (ฝั่งใกล้นะ อยู่แค่ราชดำเินิน) 1 คนในนั้นเลือกไปตามทางสว่าง ส่วนอีก 2 คนไม่มีสิทธิ์เลือกและต้องเดินทางมืด
ทางขนานนี้จะมาบรรจบกันหรือจะแยกจากกันเช่นไรก็ต้องลองติดตามกันดูครับ ภาพยนต์แห่งความรักชาย-ชายที่ไม่ต้องหันตูดให้กัน
เสริมนิดว่า ไม่มีใครไม่มีทางเลือกหรอกครับ ในความเป็นจริงที่ไม่ใช่หนังนั้น ทางเลือกมีให้เราจนเกินพอ
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 10:15 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Movie
Sep 9, 2007
"It is possible that the prince will require your services tonight. Prepare Kanthaka to ride. And saddle an other horse for yourself."
"Your highness, where is the prince going?"
"Please don't ask. Just do what I have said because the prince may need to ride tonight."
ติดตามความสนุกได้ใน "เมฆสีขาว ทางก้าวเก่าแก่"
พุทธประวัติสไตล์ที่คุณไม่เคยเรียน โดย ติช นัท ฮันห์
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 2:38 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Books we read
Sep 6, 2007
take a look at this "bird"
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 9:25 AM 2 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Things Around Us
Sep 5, 2007
จาก sarakadee.com อีกสักอัน
"ในช่วงชีวิตอันแสนสั้น นายจะทำอะไรทิ้งไว้ให้กับโลก ให้กับประเทศ ให้กับบ้านที่เราเกิดมาอาศัยอยู่ได้บ้าง ? อย่างน้อยก็ให้การที่เราเกิดเป็นคนนี้มีค่าขึ้นมา"
"ภาพนักโทษวัยเกษียณนั่งบรรยายธรรมะให้ผู้คุมฟังคงหาดูไม่ได้จากค่ายกักกันที่ไหนเป็นแน่"
นอกจากนี้ ครูยังยืนหยัดรับผิดชอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำด้วยความภูมิใจโดยไม่หลบซ่อน ด้วยเชื่อว่านี่คือแนวทางที่ถูกต้องโดยไม่เกรงกลัวอำนาจเผด็จการ
อ่านให้จบได้ที่ http://www.sarakadee.com/blog/sujane/?p=5#more-5
“ ศรีบูรพา” เคยกล่าวไว้ใน “ จนกว่าเราจะพบกันอีก” ว่า
“ฉันไม่คิดว่าการมีชีวิตอยู่เพียงแต่จะกินไปวันหนึ่ง และแสวงหาความสุขไปวันหนึ่ง แล้วก็รอวันเจ็บป่วยและตายนั้นเป็นสิ่งที่มีค่าอะไร ตามความเห็นของฉัน ชีวิตเช่นนั้นเป็นของว่างเปล่าเท่ากับไม่ได้เกิดมาเลยในโลกนี้ ชีวิตเฉยๆ ไม่มีความหมายสำหรับฉัน ถ้าฉันอยู่ ฉันต้องอยู่ในชีวิตที่ดีงาม และชีวิตที่ดีงามนั้นต้องมีอะไรมากกว่าการหากิน การแสวงหาความสนุก แล้วก็รอวันตาย ชีวิตที่ดีงามย่อมมีอยู่ และถูกใช้ไปเป็นคุณประโยชน์แก่คนอื่น”
“ครูองุ่น” มีชีวิต “งาม” ไม่ผิดจากที่ศรีบูรพากล่าวไว้นัก
เขียนโดย: Joy เมื่อ 11:29 PM 2 comments
Sep 3, 2007
You're still the one!!!
Happy our day, again.
I'll make you happy, I promise.
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 8:02 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Things Around Us
Sep 2, 2007
สวนนงนุช อ๊ะป่าวเนี่ย
นางแบบ
รายละเอียดดูได้จาก post เดิมโลด
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 11:28 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Our Trips, Restaurants
Aug 30, 2007
เว็บปัจจุบัน ตอนนี้จ้างเขาทำ ซึ่งไม่ได้ update มานานแล้ว
พอคิดจะเปลี่ยนแปลงอะไรหน่อย ผมก็เลยทำใหม่เองซะเลย ในฐานะที่ปกติก็รับงานเว็บมาทำอยู่แล้ว
design ออกมาประมาณนี้น่ะขรับ
เสร็จสรรพแล้วจะโชว์เต็มๆอีกที (อันใหม่นี่ดูจาก sitemap แล้วใหญ่เอาเรื่อง ขอเวลาซักแป๊บ)
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 10:47 PM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Tales from Longkong
ด้วยความตุ๊มๆต่อมๆ
การประกวด Software ระดับประเทศ TICTA ในสาขาบริษัทเปิดใหม่
Longkong Studio ของเราเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายแล้ว!!!
ประมาณปลายเดือนหน้าจะได้ออกงาน ICT ที่ศูนย์สิริกิติ์ และจะมีการตัดสินกันในวันนั้นอีกที
หากชนะ เราก็จะได้ไปแข่งต่อในระดับเอเชีย ในงาน APICTA ต่อไป
จะรายงานข่าวให้ทราบเป็นนะยะนะยะ
สำหรับวันนี้ จบข่าว!
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 8:33 PM 3 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Tales from Longkong
Aug 29, 2007
เขียนโดย: Joy เมื่อ 11:24 PM 1 comments
ซื้อ Norah Jones Live in New Orleans มา
เล่นที่ House of Blues
ฮือๆๆ ดีใจที่ซื้อมา
เพราะจังเลย เพราะจังเลย เย่ๆๆ
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 1:29 PM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: บ่นๆๆ
ซื้อ DVD คอนเสิร์ต The Corrs live in London มา
เซ็งโคตร
ร้องเพลงเสียงไม่ถึงอะ เพี้ยนเกือบครึ่งคีย์ ตั้งแต่เพลงแรกเลย
ฮือๆๆๆ
เซ็งว้อย
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 9:32 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: บ่นๆๆ
Aug 28, 2007
วันนี้ตอนกลางวัน ที่ร้านค่อนข้างเงียบๆ เลยแอบแวบไปข้างนอกซะเลย ..อิอิ..ตอนแรกว่าจะไปซื้อต้นไม้ซะหน่อย แต่ไปๆมาๆเลยไปเจอร้านกาแฟร้านนึง อยู่ในซอยใกล้ๆ ชื่อร้านบ้านก้ามปู เดินเข้าไปนี่จะร่มรื่นมาก อย่างกับป่าดิบชื้นเลย(คือว่าฝนเพิ่งหยุดด้วยแหละ) แต่ ชอบมากๆๆๆๆ ข้างในจะมีน้ำตกอันนึง แล้วจัดสวนหลายๆอันไว้รอบๆ โต๊ะ เก้าอี้ ทางเดิน น่ารักไปหมด ก็ไปนั่งดื่มชาอังกฤษ (ผู้ดีมะ..) กับเค้กกล้วยและครีม ชิ้นนึง รู้สึกดีจัง แค่นั่งมองต้นไม้ข้างๆ อืมม.. (หะหะ ขอแอบเว่อร์หน่อย) น่าเสียดายที่มาคนเดียว เสร็จแล้วเดินสำรวจก็จะมีมุมขายของแต่งบ้าน แต่งสวน มุมที่ขายหนังสือจัดสวน หนังสือต้นไม้ ที่มีหนังสือค่อนข้างเยอะทีเดียว นี่ถ้าไม่ต้องรีบกลับร้านอยากจะอยู่ทั้งวันเลย ต้นไม้ที่นี่ก็มีแบบพันธุ์แปลกๆให้ดูเยอะแยะเลยอ่ะ มีชั้นบนให้เดินดูวิวอีกด้วย
ชอบ ชอบ ชอบ
คือว่า มาอีกอย่างแน่นอน ยิ่งใกล้ร้านด้วย เสร็จเรา
ป.ล. ร้านอยู่ตรงถ.เลียบทางด่วน ซ.โยธินพัฒนา (แอบโฆษณาให้ด้วย)
เขียนโดย: Joy เมื่อ 11:02 PM 2 comments
ไปเจออันนี้ใน http://volunteerspirit.org/readthis.asp?pid=308
ดำน้ำ ปลูกปะการัง : ทางกลุ่มบ้านดินไทย ได้จัด “โครงการอาสาช่วยปลูกปะการังเพื่อฟื้นฟูแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำตามแนวทางพ่อหลวง” ขึ้น เพื่อรณรงค์ช่วยอนุรักษ์ปะการังชายฝั่ง
จากสถิติ ในช่วงเวลา 5 ปี ที่ผ่านมาพบว่าแนวปะการังชายฝั่งได้เสื่อมสภาพล้มตายลงเป็นจำนวนมาก โดยมีสาเหตุหลักๆคือ การทำประมงน้ำตื้น เช่น การลากอวนและระเบิดปลาในแนวปะการังนอกจากนี้ยังมีผลมาจาก ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เช่น เอลนีโน, ปรากฏการณ์ฟอกขาว เป็นต้น
ดังนั้น กิจกรรมอาสาช่วยปลูกปะการังเพื่อฟื้นฟูแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำตามแนวทางพ่อหลวง จึงเกิดขึ้น โดยทางกลุ่มบ้านดินไทยมีความยินดีที่จะชวนเพื่อนๆอาสาไปช่วยกันดำน้ำ ปลูกปาะการัง น้ำตื้นที่ ค่ายวิทยาศาสตร์ทางทะเล อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในวันที่ 13-14 ตุลาคม 2550 นี้
คุณสมบัติผู้สมัคร
1.มีใจอยากอนุรักษ์ธรรมชาติ
2.กินง่ายอยู่ง่าย รักการผจญภัย
3.ผู้ที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็สามารถเข้าร่วมได้ เพราะมีชูชีพทุกท่าน
4.สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ทุกกิจกรรมที่ทางทีมงานจัด
5.ไม่จำกัดอายุ
ไปกันไหม
เขียนโดย: Joy เมื่อ 12:51 AM 2 comments
ปากดี ขี้เหงา เอาแต่ใจ ....(แล้วใครมันจะไปทน)
มีหนึ่งคำที่พูดไม่ออก พูดไม่เป็น
ก็แค่ที่บอกว่ารักแต่ปากมันไม่ไป
มันก็เลยชอบทำเป็นงอน
ทำให้เธอสนใจไปก่อนเข้าใจ
ก็เธอน่ะสำคัญ อยากเห็นว่าเธอเป็นห่วง
เพราะฉันก็เป็นแบบนั้น
ปากดี ขี้เหงา เอาแต่ใจ ทำอะไรไม่ดีซักอย่าง
จดเอาไว้ข้างๆ หน้าต่าง ที่หลังอย่าทำแบบนี้
ปากดี ขี้เหงา เอาแต่ไจ เธอคงเซ็งหัวใจเลยสิ
แก้เท่าไหร่ไม่หายซักที ถึงเป็นอย่างนี้ ฉันก็มีแค่เธอ
พูดอะไรไม่ใจเย็นๆ พูดดีๆ ไม่ค่อยจะเป็น หรอกนะ
แต่เธอห้ามหนักใจ ไม่ต้องทำเหมือนเธอจะโกรธ
เรื่องอะไรก็ไม่ขอโทษหรอกนะเป็นแฟนกันต้องทน
ป.ล. ไม่รู้ว่าทำไมทุกวันนี้ถึงใจร้อนจัง ..บางทีก็ไม่ได้ว่างงานนะ แต่เหงาเมื่อไหร่เป็นวีนใส่อ่ะ หาเรื่องตลอด พูดไรขัดหูนิดนึง ก็ทนไม่ได้อ่ะ ต้องวีนกลับไปไม่ยั้ง พูดจาแบบหาเรื่องได้ตลอด พูดดีๆ ไม่ค่อยจะเป็น พอหายแล้วก็เสียใจจริงๆ นะ
เขียนโดย: Joy เมื่อ 12:03 AM 0 comments
Aug 25, 2007
อินเตอร์เน็ตกลับมาแล้ว
หลังจากเป็นบ้าอะไรไม่รู้ ทำเอาทั้งผมเจ้าของเน็ตปวดกบาลอยู่หลายวัน
เอาหละ เมื่อมันกลับมาแล้วก็ช่างสาเหตุมันเถอะ
ผมมักจะพูดเรื่อง relatively slow เวลาต้องต่อเน็ต 56k ในสมัยนี้ที่ ADSL เกือบจะเป็นของทั่วไปของคนใช้เน็ต
จริงๆแล้วมัน relative กันหลายชั้นอยู่
ในขณะที่ผมบอกว่า เฮ้ย เน็ตช้า ยังมีอีกหลายบ้านไม่มีคอมพิวเตอร์ นั่นก็ relative อีกเนอะ
โลกแบ่งเป็น set เ็ต็มไปหมด intersect/union กันวุ่นวาย พอเราสนใจอะไร เราก็ตัด set ที่เหลือทิ้งไป เพื่อให้มองง่ายเข้า
เมื่อก่อนพอเริ่มมี TV สี ก็จะรู้สึกว่าเออ เมื่อก่อนกูดูขาวดำแฮะ แต่ในขณะนั้น ก็มีอีกหลายๆๆๆบ้านไม่มี TV เราก็แค่ไม่สนใจเขาเท่านั้นแหละ
พอตอนนี้เปรียบเทียบความเร็วเน็ต เราก็ตัดคนไม่มีเน็ตทิ้งไป
หลายคนบอก เฮ้ยไม่ได้ คุณต้องมององค์รวม โลกมีอีกมาก ผมบอก what the hell ช่างแม่งปะไร คุณมีปัญญามองผมก็สาธุ แต่ผมไม่มีปัญญาคร้าบ
โตมาแบบนี้นี่หว่า เรียนมาแบบนี้ devide and conquer จนชินชาแล้ว จนถ้าวันไหนไม่ได้ตัดแบ่ง แยกกลุ่มนู่นนี่แล้วรู้สึกชีวิตไม่เป็นสุข
ไม่รู้ว่าคนโดดเดี่ยวขึ้นเพราะอะไรแบบนี้หรือปล่าว แต่ก็ขี้เกียจจะหาคำตอบแล้วแหละ ขอเลี้ยงปากท้องก่อน
เป็นแค่คนที่ยอมรับความจริง และพร้อมจะก้าวต่อไปครับ
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 2:52 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Our Thoughts, Self
Aug 22, 2007
เรื่องมันมีอยู่ว่า...
เมื่อ 10-20 ปีมาแล้ว
เจฟกับสตีฟเป็นเพื่อนรักกัน และทั้งคู่ยังเป็นนักมานุษยวิทยาชื่อก้องอีกด้วย (ตกลงชื่ออะไรกันแน่?) งานที่ทั้งสองทำนั้นค่อนข้างท้าทาย เพราะต้องบุกป่าฝ่าดงไปยังดินแดนลึกลับมากมายเพื่อศึกษาชีวิตมนุษย์ชาติพันธุ์ต่างๆ และสมัยนั้นก็ยังมีหลายเผ่าที่เป็นเผ่าล้าหลัง บางเผ่ากินคน
แต่ 2 คนก็แคล้วคลาดมาตลอด จนกระทั่ง ...
"เฮ้ อึมปลั๊กสะดู๊ด ตึ๋งๆ" แปลเป็นไทยว่า "เฮ้ย! จับมันไว้" และนั่นเป็นเสียงสุดท้ายก่อนที่สติของเจฟและสตีฟจะดับวูบไป
เจฟลืมตาขึ้นพยายามมองหาสตีฟ แล้วก็พบว่าตัวเองถูกมัดอยู่กับเสาในลักษณะกางเขน ส่วนสตีฟนั้นไม่เห็นแม้แต่เงา แว่วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นทันใด "เฮ้ อึมปลั๊กสะดู๊ด ตึ๋งๆๆๆ" แปลเป็นไทยว่า "พวกเจ้ากล้ามากที่เข้าไปเหยียบวิหารของเรา ถึงแม้เราจะเป็นเผ่าไม่กินคน แต่เราก็มีกฎของเรา พวกเจ้าจะต้องถูกลงโทษ" นั่นคือเสียงของหัวหน้าเผ่าลึกลับนั่นเอง เขาก้าวเข้ามาหาเจฟ พร้อมกองกำลังชายถึก ด้วยทีท่าประหนึ่งนักรบในหนัง 300
"สตีฟล่ะ?" เจฟตะโกน "พวกแกทำอะไรกับสตีฟ?"
"มันกำลังโดนลงโทษ ตามกฎของเรา" หัวหน้าเผ่ากล่าวเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงออสเตรเลีย
"โทษนั้นมีให้เลือก 2 อย่าง คือตาย หรือบุนด้า!!!"
ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องโหยหวนดังมาจากซอกเขา "โอ โน อย่างงี้ไม่เอา อย่างนี้ไม่ดี ช่วยด้วย โอ้้้ออออออออออออ"
เสียงสตีฟนั่นเอง
"มันเลือกบุนด้า เพราะยังอยากมีชีวิตต่อไป มันยังไม่มีลูกเมีย"
สิ้นคำ ก็มีชายบึกบึนลากร่างของสตีฟออกมากองตรงหน้าเจฟ พลั่ก!
"เจฟ...แกยังไม่มีลูกเมียก็จริง ตะ..ตะ..แต่ แกอย่าเลือกบุนด้านะ" "ฮือ ฮือ ข้าคงกลับไปมีเมียเป็นผู้หญิงไม่ได้อีกแล้ว"
"ฮือ ฮือ ผู้ชายนับสิบ ฮือ ฮือ" สตีฟพูดได้แค่นั้นก็สลบไป
หัวหน้าเผ่า: "ถึงเวลาของเจ้าแล้ว เจ้าคนขาว เจ้าจะเลือกอะไร?"
เจฟเข้าใจดีว่าเพื่อนโดนอะไรมา และเขาคิดว่าเขามีเกียรติของลูกผู้ชาย ยอมตายซะดีกว่า
"ข้า เจฟ โดม่อน ขอเลือกความตาย!!!!"
หัวหน้าเผ่า: "เจ้ามีความเด็ดเดี่ยวมาก สมแล้วที่เป็นชายชาติอาชา"
"เฮ้ย!!! เอามันไปทำให้ตาย ด้วยบุนด้า!!!!"
เจฟ: "....."
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 5:32 PM 2 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Joke
จุดพักรถมอเตอร์เวย์ต้องระวัง แม้กระทั่งผู้ชาย เคยเจอแบบนี้ไหมครับ
จุดพักรถมอเตอร์เวย์ ตอนตีสอง ผมกำลังขับรถกลับบ้านคนเดียว ปวดขี้สุดๆ
เลยแวะเข้าห้องน้ำ ปิดประตูปัง !!!! สักพักมีคนเดินมาเข้าห้องน้ำ
ห้องข้างๆผม แล้วมีเสียงลอดออกมา
ชายนิรนาม : “สวัสดี เป็นไงบ้าง สบายดีไหม”
ผม : นึกในใจ อืม อะไรของมันว่ะ แต่ทำใจดีสู้เสือ เอาไงเอากันว่ะ เลยตอบกลับไป “ เอ่อ สวัสดีครับ สบายดีครับ”
ชายนิรนามถามต่อ : “ แล้วทำอะไรอยู่ล่ะ”
ผม : นึกในใจ มึงจะให้กูทำ อะไร ฟะ นั่งอยู่ในส้วม “ เอ่อ คือ ขี้อยู่อะครับ”
ชายนิรนามถามอีก : “นอนดึกนะเนี่ย ป่านนี้ ยังไม่หลับไม่นอน จะไปไหนเนี่ย”
ผม : อืม แปลกดีวุ้ย มีคนชวนคุย คงกำลังหาเพื่อนคุย “ เออ กลับบ้านที่จันทน์ ครับ ต้องไปงานแต่งตอนเช้า”
สำหรับประโยคสุดท้ายของชายนิรนาม ที่ทำให้ผมขนลุก
.....
ชายนิรนาม : “ เฮ้ยๆ กูวางหูแค่นี้ก่อนนะ ห้องข้างๆเป็นเอี้ยอะไรไม่รู้ พูดตอบมาตลอดเลย” ผม : ????????????????????????
เขียนโดย: Joy เมื่อ 12:18 AM 3 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Joke
Aug 21, 2007
หายไปหลายวัน เพราะ
ที่ office งานยุ่ง
ที่บ้าน net เจ๊ง และยังเจ๊งต่อไป
เห้อๆๆ
แต่มีกล้องถ่ายรูปแล้ว เดี๋ยวจะเอามารูปมาลงนะ
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 8:12 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Things Around Us
Aug 16, 2007
เพิ่งมาจากชิบูปู่ ....ชิบูย่า!!!
เป็นร้านขายอาหารเส้นของญี่ปุ่น เช่น ราเมน หรือที่บ้านเรียกราเม็ง อุด้ง อะไรอีกนะ อ๋อ พาต้า ....พาสต้า!!! .... พาสต้าก็ไม่มีเฟร้ย!!!!
โซบะ โซเมน หรือที่บ้านเรียกโซเม็ง
ร้านนี้ตั้งอยู่ที่เอสพละนาด (มันเขียนงี้จริงๆนะ) รสชาติเหมือนที่อ่านในการ์ตูนเลย
กินเสร็จแล้วก็เลยอิ่ม แล้วก็เดินออกจากร้านมาหาอะไรกินต่อ เวร พอดีช่วงนี้มีของชิมเยอะ เลยไล่ตระเวนกินของชิมจนอิ่มอีกรอบ (ล้อเล่นน่ะ กินนิดหน่อย)
เน็ทนี่ก็ใช้ฟรี ของห้องสมุดมารวย อ๊ะ เขามาไล่แล้ว "อีก 10 นาทีค่ะ" ไปดีกว่าวุ้ย ไปเถอะเรา ไปหาของชิมต่อ
go go go!!!
เขียนโดย: Joy เมื่อ 9:44 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Our Trips, Restaurants
Aug 14, 2007
...
เป็นคำถามอยู่ว่า ทำไมลูกค้าไม่ค่อยเข้า
นั่งคิดสาเหตุกันอยู่นาน มีการประชุมอะไรกันวุ่นวาย
ตอนนี้เข้าใจแล้ว ...
ยอดขายคงกลับมาดีดังเดิมนะ สาธุ!
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 6:20 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Tales from Longkong
Aug 12, 2007
หนังเชายันฝัดเรื่องนั้นน่ะ อืมๆ Bullet Proof ป่าววะ? ไม่แน่ใจ
Bullet Proof มั้ง (Monk)
จอยทำงานที่เลียบทางด่วนอะไรนะ? รามอินทรา...
ณรงค์ป่าววะ ไม่แน่ใจ
รามอินทรา อาจณรงค์
ให้เบอร์ไปแล้วไม่โทรมางี้เราก็ McDonald ฟรีดิ
???อะไรวะ???
แจกเบอเก้อ (เบอเกอร์)
อันถัดไปมาจากน้องบี 84
เห้ย 2 หารด้วย 4 ได้เท่าไหร่
...ตอบทันควัน 0.5 ไง
โอว นายเป็นคน กล้าหาญ (กล้าหาร) นะเนี่ย
ถ้าอยากให้เป็นคนไม่กล้าหารก็ถามให้มันยากๆ เช่น 1.345 หารด้วย 0.99876
ไปหละขรับ
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 1:52 AM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Joke
ว่ะ
เว้ยเฮ้ย
นะครับ
วู้วววว
สวัสดีคร้าบบบบ
เหงาจัง ไม่รู้จะบรรยายยังไง
เศร้าจัง
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 1:15 AM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Self
Aug 11, 2007
เคยกินไหม
กาแฟปรุงสำเร็จยี่ห้อเบอร์ดี้
ตอนแรกที่ชงก็ว่ากลิ่นมันคุ้นๆ
กินไปซัก 2-3 แก้ว
อ้อ กลิ่นเหมือนหมาสะอาด
คุยกับพี่ทัศน์ ซึ่งที่บ้านเลี้ยงหมาเยอะ ลองให้แกดม (ดมกาแฟนะ ไม่ใช่หมา) แกเห็นด้วย
ครับ
เบอร์ดี้กาแฟปรุงสำเร็จ
หอมกรุ่นเหมือนหมาที่คุณเลี้ยง
--เบอร์ดี้
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 11:13 AM 1 comments
เมื่อคืนวานทำไอ้นี่กิน
ข้าวสวย 1 จานครึ่ง
ปีกบนไก่ 3 ปีก
ไข่ 1 ฟอง
มะเขือเทศ 1 ลูก
กระเทียม 4-5 เม็ด
ซอสถั่วเหลือง (ภูเขาทอง)
ซีอิ๊วกู (ซีอิ๊วดำ!!!)
ตั้งกะทะใส่น้ำมันร้อน กระเทียมลงจนเหลือง ใส่ไก่ลงไป เติมซีอิ๊วเล็กน้อย ปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลือง ปิดฝากะทะไว้
ไปต้มมาม่าแผน 2 คอยอีกเช่นเคย
5 นาทีผ่านไป ไก่จะกึ่งสุกกึ่งไหม้ (อย่าให้ไหม้จนดำนะ มันไม่อร่อย) จริงๆแล้วซีอิ๊วเนี่ยถ้ามีเวลาจะหมักกับไก่ไว้ซักครึ่งชั่วโมงก็ได้ แต่พอดีเมื่อวานหิว
เอาข้าวลงไปผัด ให้สีข้าวติดทั่วกัน ไม่ใช่ขาวกระดำกระด่าง เดี๋ยวจะกินไม่ลง เปิดทางข้าวให้เห็นก้นกะทะ ตอกไข่ด้วยมือเดียว(สำคัญมาก) แล้วใส่ลงไปตรงนั้นเลย กะทะร้อนๆไข่จะสุกเร็ว รีบๆผัดให้กระจายทั่วข้าว ไม่งั้นจะกลายเป็นข้าวไข่คนเอา ผัดจนแห้งไม่แฉะ (หรือใครชอบแฉะๆก็ตามใจ) ใส่มะเขือเทศ (หั่นก่อนนะเฟ้ย อย่าทะลึ่งใส่ทั้งลูก หั่นหนาประมาณ 3 mm.) ผัดต่ออีกนิด ก็ยกลง เสิร์ฟร้อนๆพร้อมมาม่า
ปกติเวลาทำข้าวผัดหมูจะผัดไข่พร้อมกับหมูนะ แต่อันนี้คงฮาถ้าเอาไข่ไปผัดกับปีกไก่ มันจะแหวะมาก -- อย่าทำ
ไปหละ enjoy cooking!!!
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 10:48 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Cooking
Radiohead
I just love this song, so much.
.......................................
Her Green plastic watering can
For her fake Chinese rubber plant
In the fake plastic earth.
That she bought from a rubber man
In a town full of rubber plans.
to get rid of itself.
It Wears Her Out, it wears her out
It wears her out, it wears her out.
She lives with a broken man
A cracked polystyrene man
Who just crumbles and burns.
He used to do surgery
For girls in the eighties
But gravity always wins.
And It Wears Him Out, it wears him out
It wears him out, it wears him out.
She looks like the real thing
She tastes like the real thing
My Fake Plastic Love.
But I can't help the feeling
I could blow through the ceiling
If I just turn and run
And It Wears Me Out, it wears me out
It wears me out, it wears me out.
And if I could BE who you wanted
If I could BE who you wanted,
All the time, all the time, ohhh... ohh...
....
อะแถม MP3 ... โหลดโลด Fake Plastic Trees MP3
โหลดแล้วซื้อ CD ด้วยนะเฟร้ย
....
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 8:20 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Lyrics
Aug 10, 2007
ไปขี่จักรยานมาอีกแล้ว
เมื่อคืนวาน หลังกินเห็ดเข็มทอง
คราวนี้ไปอีกทาง ออกจากบ้านวิ่งติวานนท์เช่นเคย แต่หันหัวเข้าเมือง ไปถึงงามวงศ์วาน เลี้ยวเข้าชินเขต ออก North Park แล้วก็วิ่ง Local Road เข้าสรงประภา กลับบ้าน
ออกตีหนึ่ง ถึงบ้านตีสี่ (บ้าป่าววะ) คืออยากปั่นไปเคลียร์หัวน่ะ จะได้ไม่ต้องคิดเรื่องอะไรที่มันไม่อยากคิด อยากจะลืมมันไปเสียที แต่คงอีกนานเหมือนกัน พออยู่คนเดียวดึกๆแล้วภาพเก่าๆก็จะกลับมาหลอกหลอนทุกที เฮ้อ
คราวนี้ภาพผู้คนเปลี่ยนไป ทั้งๆที่เข้าเมือง แ่ต่กลับรู้สึกเหงาและเงียบ ต่างจากคราวที่แล้ว เช่นเคย 7-11 และ Lotus Express แข่งกันเปิดไฟสว่างจ้าอยู่ทั่วไป ไม่ต้องกลัวจะไม่มีอะไรกิน (แต่ร้านบะหมี่ ส้มตำ กลับไม่ค่อยมี) สิ่งที่ได้จากการปั่นครั้งนี้คือ แท็กซี่ว่างเยอะมาก วิ่งหาคนกันเยอะแยะไปหมด ไม่ยักกะมีคนขึ้น กับอีกอย่างคือ ยามตามสถานที่ต่างๆนั้นหลับทุกคน
คืนนี้เหงาๆอีกแล้ว คงไปปั่นอีกตามเคย...
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 9:32 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Riding My Bike, Things Around Us
สูตรเด็ด
หมูสับ 1 ขีด
เห็ดเข็มทอง 1 แพ็ค (ประมาณขีดนึงแหละ)
กระเทียม 4-5 เม็ด
ซอสถั่วเหลือง (ภูเขาทอง)
ซอสหอยนางรม
ตั้งไฟกะทะร้อนใส่น้ำมัน ทุบกระเทียมลงผัดเบาๆไม่ต้องเหลืองมากเดี๋ยวกลายเป็นกระเทียมเจียว
ใส่หมูสับลงไป ใช้ตะหลิวกดๆ ให้แผ่ๆ จะหนาจะบางตามแต่ใจ เติมซอสกับซอสหอย เอาพอประมาณ ไม่ต้องเยอะ คนๆแล้วปล่อยไว้ซัก 2-3 นาที (ไปต้มมาม่าก็ได้ เผื่อผลลัพธ์ออกมาไม่ดีจะได้มีอะไรกิน)
กลับมาดู อืม หมูสุก ใส่เห็ดเข็มทองโปะลงไปงั้นเลย (เห็ดเข็มทองเป็นอะไรที่สุกง่ายสุดๆอยู่แล้ว) รอซักอึดใจ (ไม่ต้องกลั้นหายใจนะ เดี๋ยวตาย) ตักลงจานโลด เสิร์ฟร้อนๆพร้อมมาม่าที่ต้มไว้
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 8:48 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Cooking
เมื่อวันพุธไปดูหนังเรื่องนี้มา
จะเอา Trailer จาก YouTube มาใส่ให้ดูก็ใส่ไม่ได้อีก ไม่รู้เป็นไร
เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังนะ
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 1:09 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Movies
Aug 9, 2007
ฉัน: นี่ๆเธอ ฉันอยากทำอะไรกลางๆกับเธอจังเลย
เธอ: อะไรเหรอกลางๆ งง อืม เหมือนทางสายกลางอ๊ะป่าว จะชวนไปปฏิบัติธรรมเหรอ
ฉัน: ทำอะไรกลางๆก็คือ ทำมิดีมิร้าย ไง
เธอ: ผั่วะ
ฉัน: โอ๊ย ...
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 1:38 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Joke
Aug 7, 2007
เมื่อคืน ด้วยความเหงาๆ ผมขี่จักรยานคันโปรด (อย่างกับมีหลายคัน) ออกจากบ้านไปเรื่อยเปื่อย จากศรีสมาน ไปติวานนท์ ออกรังสิต-ปทุมธานี ไปถึงสถานีรถไฟรังสิตแล้วเข้า local road จนถึงวัดดอนเมืองแล้วก็เลี้ยวเข้าสรงประภา กลับบ้าน
ใช้เวลาไป 3 ชั่วโมง ออกจากบ้าน 4 ทุ่ม กลับถึงบ้านตีหนึ่ง ได้ผ่อนคลายอารมณ์บ้าง
ระหว่างทางเนื่องจากเป็นชานเมือง อากาศก็จะเย็นสบาย สดชื่นตลอดทาง ติดตรงที่ทางบางตอนไม่มีไฟทำให้มืดและดูน่ากลัวอยู่บ้าง
ผมได้เห็นชีวิตกลางคืนมากมายสองข้างทาง และพอได้ขี่ไปดูพื้นที่จริงแบบนี้ทำให้เห็นว่ามีชุมชนอยู่ในระยะห่างไม่เกิน 1 กิโลเมตรตลอดทาง ศูนย์รวมชุมชนก็จะเป็นร้านสะดวกซื้อโดยเฉพาะเซเว่น และหน้าเซเว่นก็จะมีร้านก๋วยเตี๋ยว หรือไม่ก็ส้มตำที่คนเต็มทุกโต๊ะ บางจุดมีแม้แต่ตลาดนัด (ตอนผมผ่านก็ 5 ทุ่มกว่าแล้ว ตลาดยังไม่วาย)
ผมมีความรู้สึกอะไรบางอย่างเกิดขึ้นมา ชานเมืองไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวดึ๊งดึ่งแดนซ์กระจาย คนส่วนใหญ่ที่ีไม่หลับไม่นอนกันนั้น คือคนงานกะดึก ไม่ก็เพิ่งเลิกจากการทำโอทีจากนิคมอุตสาหกรรมแถวนั้น ความรู้สึกบางอย่างนั้นคือความคุ้นเคยนั่นเอง
คนเหล่านั้นมาจากต่างจังหวัด ครอบครัวไม่มีกะตัง เข้ามาทำงานเพื่อหาเงินหวังเลื่อนชั้นจากชั้นล่างเป็นชั้นกลาง และแอบหวังลึกๆว่าซักวันจะเป็นชั้นสูง อย่างเลวก็รุ่นลูกหลานละวะ หนึ่งในคนเหล่านั้นก็คือผม นั่นเอง
ชั้นล่าง ชั้นกลาง ชั้นบน ล้วนเป็นคำนิยามของคนเมืองเอาไว้ตีค่าแบ่งกลุ่มกัน ตามฐานะทางการเงิน ไม่ก็ความสามารถทางการจ่ายภาษี คนบ้านนอกบ้านนาอยู่บ้านนอกบ้านนาก็เป็นไอ้ดำบ้านหนองกระทุ่ม ไอ้แดงลูกตาเหมือน ไม่เคยเป็นชนชั้นสูงกลางต่ำอะไร แต่อยู่ๆก็เดินทางเข้าเมืองมาให้เขาวัดว่าเป็นระดับต่ำ
ขี่มาเรื่อยๆเหลือบไปเห็นสนามกอล์ฟ และก่อนหน้าสนามกอล์ฟประมาณ 200 เมตร มีเพิงพักที่เป็นที่จอดแท็กซี่ เห็นแท็กซี่จอดอยู่ 3-4 คัน และเหล่าแท็กซี่กำลังซ้อมพัทกันอยู่ ผมคิดถึงพ่อขึ้นมา พ่อผมเป็นคนขับรถส่งเจ้านายตามโรงงาน ญี่ปุ่นบ้าง ฝรั่งบ้าง ฐานะการเงินและสังคมก็คงพอๆกับแท็กซี่ และพ่อก็อยากตีกอล์ฟมาก มีถุงไม้กอล์ฟอยู่หลายชุด (ที่บ้านผมก็ได้มาชุดนึง) ซึ่งถ้าพูดกันจริงๆแล้ว ฐานะอย่างพวกผมตอนนี้ คงไปออกรอบแบบคนรวยๆเขาไม่ได้ ทำได้ก็แค่ไปเช่า range มาไดรฟ์ กับลูกถาดสองถาดเท่านั้นเอง
มันเป็นเกมของเขานะพ่อ ไม่ใช่เตะบอลในทุ่งนาแบบบ้านเรา เรามาเล่นในเกมของเขาก็เป็นได้แค่นี้ ต่อให้ไต่ฐานะขึ้นไปถึงไหนๆ ก็ไม่วายโดนเขาดูถูกอยู่ดี
พวกเราเข้ากรุงเทพมาให้คนดูถูกฐานะ ทั้งๆที่อยู่บ้านเรามีชีวิตอย่างสบาย เข้ามาไต่ฐานะเลื่อนชั้นตามเกมของคนเมืองเขา ลองคนเมืองเข้าบ้านนอกบ้าง ถ้าไม่ใช้เงินซื้อเอาตามเกมเขา ก็คงหากินลำบาก จะจับปลา หาผัก หาเห็ดเหมือนเราก็คงไม่ได้นะพ่อนะ
ผมก็คงสู้ต่อไปในเกมนี้สักพัก เพราะผมไม่ได้อยู่คนเดียวอีกแล้ว มีคนใกล้ชิดที่อยู่คนละเกมกัน จะลากเขามาเกมผมก็คงไม่เหมาะนัก
คำโบราณว่าก็มีส่วนจริงนะ เรื่องคู่สมฐานะ และอะไรต่างๆ ที่ถ้ามองตามแบบนิยายรักก็คงจะบอกว่า เฮ้ย มันอยู่ที่ใจ แต่ความจริงไม่ใช่นิยาย ใครเล่นข้ามเกมก็ต้องเจ็บกันบ้างไม่มากก็น้อย
เอ้า! เล่นกันต่อไปเว้ยเฮ้ย
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 1:39 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Riding My Bike, Things Around Us
Aug 6, 2007
สวัสดีปีใหม่จ้า!!!!
ปีนี้ก็ขอให้สู้ๆ ชีวิตมันง่ายกว่าที่คิดนะ ทำใจสบายๆ ก้าวไปอย่าไหวหวั่น
ฮึบๆ
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 12:47 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Things Around Us
Aug 5, 2007
หากเนื้อคู่ คือคนที่เกิดมาเพื่อกันและกัน...
คือคนที่พรหมลิขิตเขียนให้มาเจอกัน
ฉันไม่ใช่เนื้อคู่ของเธอ
เนื้อคู่ของเธอ ต้องทำให้เธอมีความสุขได้โดยธรรมชาติของเขาเอง
ทำให้เธอยิ้มได้โดยไม่ต้องเล่นมุข
ให้สิ่งที่เธอพอใจโดยไม่ต้องร้องขอ
ฉันเ็ป็นเพียงคนที่เดินผ่าน และตกหลุมรักเธอ
ฉันพยายามทุกอย่างที่จะทำให้เธอมีความสุข
ฉันเดาว่าเธอน่าจะพอใจสิ่งใด และหาสิ่งนั้นมาให้เธอ ฉันเดาผิดบ้าง ฉันเสียใจ ฉันเดาถูก ฉันดีใจ
บางอย่างฉันคิดไม่ถึง เธอต้องร้องขอ ฉันเสียใจ
ฉันพยายามที่จะลบเนื้อคู่ออกจากใจของเธอ และทำทุกวิถีทางให้ฉันแทนที่เขา
ฉันขอโทษ ฉันเห็นแก่ตัว
ฉันจะทำต่อไป จนกว่าเธอจะเจอเนื้อคู่ตัวจริง วันนั้นฉันจะเลี้ยงฉลองให้เธอ และขอให้เธอไปจากฉันโดยไม่รั้งไว้
ฉันหวังให้เธอมีความสุข แต่ในใจอันเห็นแก่ตัวของฉันหวังให้เธอหาเขาไม่เจอ
เผื่อเวลาจะทำให้ฉันหลอกเธอได้สำเร็จว่าฉันคือตัวจริง
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 1:11 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Self
Aug 3, 2007
....
ฉันล่ิองลอยอยู่ในฝันอันเวิ้งว้าง ว่างปล่า สิ่งรอบกายเป็นสีเทาดำ จะว่าไป มันมีสิ่งรอบกายหรือปล่าว
ไม่มี
หลับตาหรือลืมตาล้วนให้สีดำไม่แตกต่าง ฉันตัดสินใจลืมตาอยู่ เพื่อให้ใจฉันได้รับรู้ถึงความมืดมิดไร้จุดหมายนั้น
แขนขายังทำงานดีอยู่ ความพยายามก้าวเดินกลับกลายเป็นแหวกว่าย ไร้พื้นดิน ฉันรู้สึกเหมือนอยู่ในของเหลวข้นๆ ขยับตัวได้ลำบาก
ฉันไม่เข้าใจ ทางไหนหน้า ทางไหนหลัง ทางไหนล่าง ทางไหนบน แต่ฉันจะหยุดนิ่งไม่ได้ ฉันแหวกว่ายต่อไปจนเหนื่อยล้า สายตายังไม่ชินกับความมืดดำนั้น
ไม่มีเสียงใดๆให้ได้ยิน ฉันเริ่มรู้สึกอึดอัด
...
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 1:02 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Self
Modern Dog
ผ่านเลย เวลา
ผ่านมา ผ่านไป
สิ่งที่แน่นอน คือการจากไกล
* หมดเวลารัก หมดเวลาเสียใจ
ถึงเวลาต้องไปเสียที หมดเวลาเหงา
หมดเวลาสุข หยุดความทุกข์ไว้เพียงเท่านี้
(หมดเวลารัก หมดเวลาเสียใจ
ต้องไปเสียที..หนา แม้จะไม่มี
วันนี้ที่คืนกลับมา)
ขอบคุณ น้ำใจ
และความห่วงใย เส้นทางของคน
ดิ้นรนกันต่อไป
.........................................
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 12:30 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Lyrics
Aug 1, 2007
...
แนะนำให้อ่านเป็นอย่างยิ่งขรับ
Download -->หนังสือคู่มือคนไทย "ประชาธิปไตยใช้ได้จริงๆ" (16.4 MB)
เอามาจาก
ศูนย์ศึกษาวิจัยการเมืองไทย โดยประชาชน เพื่อประชาชน
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 12:21 PM 2 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Things Around Us
ฮ่าๆ เกาะล้านนั่นเอง ...
เมื่อวานไปเที่ยวเกาะล้าน (พัทยา) มา ด้วยเวลาอันจำกัดทำให้ไม่ได้ทำอะไรมากนัก เดี๋ยวมาเล่าต่อยามว่างนะจ๊ะ
...
โอเค ยามว่างแล้ว
เราออกจากกทม. ณ จุดนัดพบลับ ที่ปั๊มแก็สปตท.ตรงถนนเพชรเกษมแถวๆสะพานเนาวจำเนียร (มีอยู่ปั๊มเดียวแหละ หาง่าย) อ้าว บอกซะหมดงี้จะเรียกจุดลับได้ไง? ออกจากปั๊มเวลาประมาณ 8:40 ด้วยรถกระบะสุดลุย ขับวนเวียนอยู่ในกรุงเทพเมืองฟ้าอมร ขับวนไปวนมากว่าจะออกจากกรุงเทพก็ 9 โมงกว่าแล้ว
เราเลือกใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์สาย 7 ด้วยคิดว่าน่าจะวิ่งสบายๆ ซึ่งก็สบายดี แต่ก็เจอกับการสร้างถนน สร้างสะพานเต็มไปหมด ตลอดทางเจอเข้าไป 6-7 ที่ ถึงกะสบายไม่ออกเหมือนกัน คราวหน้าคงต้องดูก่อนว่าทางมันดีหรือยัง ไม่งั้นไปสาย 3 ดีกว่า
บ่นๆๆ เพลงที่เลือกไปฟังระหว่างทางก็ write CD เอาคืนก่อนหน้าแบบล่กๆ ประกอบด้วย Now that's what i call music! 4-9 ซึ่ง write มาห่วยมากทำให้คุณภาพเสียงไม่ค่อยดี และบางเพลงถึงกะฟังไม่ได้ ช่างมัน เรายังมี Jack Johnson ชุด In between dreams ซึ่งฟังกันจนเบื่อ แต่ก็พอกล้อมแกล้มไป
ขับกะดุ๊งๆ ตามทางไปเรื่อย แวะกินข้าวตรงจุดพักรถ แล้วก็ยิงยาวไปจนถึงพัทยา อืมๆ ที่อ่านมาจากอินเตอเหน็ดเขาว่าเจอป้ายเกาะล้านตรงพัทยากลางอย่าเลี้ยว อย่าเลี้ยว!!! แหะๆ ไม่เลี้ยวคร้าบ ไปเลี้ยวตรงพัทยาใต้ แว้บ ตรงต่อไปเจอไฟแดงเลี้ยวซ้าย ขึ้นสะพาน ลงสะพาน อา ถึงแล้ว ท่าเรือบาลีฮาย... ดีนะที่ท่องแผนที่มาขึ้นใจ
ทุลักทุเลและหงุดหงิดกับการหาที่จอดพอสมควร ไปถึงท่าประมาณ 11 โมงครึ่ง จอดรถได้ประมาณเที่ยงกว่า เอาหละ เรือออกบ่ายโมง มีคนของเรือมาขายๆ เราถามถึงราคาเขาบอกมี 2 แบบคือ Speedboat 150 บาท ออกบ่ายโมง เรือธรรมดาออกบ่าย 2 ราคา 20 บาท ไอ้เราก็รีบๆ พอรู้ตัวก็จ่ายตังไป 300 บาท คนเรือชี้ให้ขึ้นเรือ เราก็ขึ้นๆไป เอ๊ะ นี่มันเรือเ็ร็วแบบไหนวะ มี 2 ชั้นด้วย ครับ เ็ซ็งไป โดนหลอกเฉย แต่เนื่องจากมาเที่ยวไม่ได้มาทะเลาะกับใครเลยปล่อยเลยตามเลย ที่ที่เรียกกันทั่วไปว่า ช่างแม่ง
ตามเวลามันบ่ายโมง แต่กว่าเรือจะออกจริงๆก็ล่อเข้าไปบ่ายโมงครึ่ง เอาเข้าไป อุตส่าห์รีบหาที่จอด แต่พอเรือออกก็สบายใจขึ้น ลมเย็นๆ ทะเลกว้างๆ เรายิ้มออก เย่ๆ มาเที่ยวทะเลกันแล้วเฟร้ย
ผ่านไป 40 นาที เห็นเกาะอยู่ใกล้ๆประมาณว่ายน้ำเหนื่อย เย่ๆ จะถึงแล้ว พรึ่บ เสียงเครื่องยนต์ดับ อืม อะไรหว่า อ๋อ ตอนก่อนมาคุณคนเรือบอกว่ามีบริการดูปะการังฟรีด้วย (ฟรีที่ไหนเล่า เอาตังกูไป 300) โอเค รอดูซิว่าจะมีใครมาบอกให้ทำอะไร รอไปสิ 10 นาทีผ่านไป เรือลอยเท้งเต้ง ไม่เห็นมีใครลงน้ำไปดูอะไร มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย ฝรั่งข้างๆเริ่มบ่น เ็ห็นบอกนี่แหละเมืองไทย เคยเจอรถเมล์เสียโดยไม่มีใครบอก ปล่อยให้ฝรั่งรอ คราวนี้ก็คงเหมือนกัน ไอ้เราก็แหะๆอยู่ในใจ อายนิดๆ ประเทศเรา..
ซักพักก็มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าเรือเสีย ไอ้เราก็เริ่มเซ็งๆ ซักพักมีนักท่องเที่ยวชาวไทยบางคนเริ่มเดินไปหยิบชูชีพ เฮ้ย ไม่ตลกนะเฟร้ย เมื่อกี้ที่บอกเห็นเกาะอยู่ใกล้ประมาณว่ายน้ำเหนื่อยเนี่ย มันมีคำว่า "เหนื่อย" ด้วยนะคร้าบ พอมองไปทางเกาะอีกทีเริ่มเปลี่ยนเป็นคำว่า เหนื่อยมาก ขึ้นมา ...
นี่จะมาเที่ยวหรืออะไรเนี่ยอิๆ เล่ามาตั้งนานมีแต่เรื่องบ่น หะๆ จริงๆเรามีความสุขตลอดทริปนะครับ เดี๋ยวมาเล่าต่อ และรูปจะตามมาทีหลัง ...
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 9:20 AM 2 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Our Trips
Jul 29, 2007
เห็นเขาพูดถึงกันน่ะนะ เลยไปหาเนื้อเพลงมาลงไว้
ออฟ ปองศักดิ์
แทงข้างหลัง..ทะลุถึงหัวใจ MP3
ไม่ใช่นิยายไม่ใช่ละคร
ที่ฉันมองเห็นอยู่นี้ ที่แท้มันคือความจริง
คือคนสองคนที่บอกรักกัน
และคนในนั้นหนึ่งคนคือคนที่ฉัน รักหมดหัวใจ
สิ่งที่เธอแสดงทุกทุกถ้อยคำ เหมือนเธอนั้นพูดกับฉัน
แต่ผู้ชายคนนั้น มันไม่ใช่ฉัน
ฉันเหมือนคนไม่มีกำลัง และหมดแรงจะยืนจะลุกจะเดินไป
ฉันเหมือนคนกำลังจะตาย ที่ขาดอากาศจะหายใจ
ฉันเหมือนคนที่โดนเธอแทงข้างหลัง แล้วมันทะลุถึงหัวใจ
เธอจะให้ฉันมีชีวิตต่อไปอย่างไร
ไม่มีอีกแล้วกับเธอ ไม่มีเหลือสักอย่าง อยากตาย
บทบาทของเธอ สิ่งที่เขาทำ
ทุกตอนมันเหมือนตอกย้ำ ให้ฉันต้องเสียน้ำตา
ภาพที่คุ้นเคยที่ที่คุ้นตา
น้ำเสียงที่เธอพูดจา ท่าทีเหล่านั้นฉันไม่เคยลืม
สิ่งที่เธอแสดงทุกทุกถ้อยคำ เหมือนเธอนั้นพูดกับฉัน
แต่ผู้ชายคนนั้น มันไม่ใช่ฉัน
สิ่งที่เธอแสดงทุกทุกถ้อยคำ เหมือนเธอนั้นพูดกับฉัน
แต่ผู้ชายคนนั้น มันไม่ใช่ฉัน--ออฟ
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 12:44 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Lyrics
Jul 28, 2007
เมื่อวันนี้ก็นัดกันไปกินข้าว
ที่ร้านหนึ่ง ..ไปถึง ร้าน
ร้านแบบว่าปิดจัดงานใครสักคนเกิด
อืม ข้าพเจ้าก็แบบว่า เซ็งๆ และก็หิ้วหิว
อ่ะ ย้ายร้าน
ก็วนกลับมาทางเดิมที่เพิ่งผ่านไป
แล้วรถก็ติดชิบป๋ง ขนาดยอมเสียตังค์ขึ้นทางด่วน นะ เนี่ย
ก็ยังจะขึ้นไปติดกันอีก
แบบว่าเลิกงานแล้วทำไมไม่กลับบ้านกันฟระ
จะไปไหนกันนักหนาป่านนี้
เฮ้อ เซ็งๆอยู่บนรถคนเดียว
ที่สำคัญคือหิวมาก
กว่าจะไปถึงร้าน
อ่ะไม่มีที่จอดอีก
อุตส่าห์วนๆๆๆๆๆ รอๆก็ไม่มีอีก
ให้ดิชั้นถ่อไปจอดไกลโค ตระ เลยเข้าไปอีกแบบว่าไกลอ่ะ
อ่ะให้รอรถกอล์ฟมารับ
นานจัด
รอไม่ไหว ขี้เกียจรอ เลยเดิน
เดินๆก็ เปียก มีเละหน่อยๆ
ไปถึงก็เจอกัน
ก็ทำหน้าบูดๆใส่
ยังไงก็ขอโทษนะ
ก็จะพยายามไม่หงุดหงิดกับอะไรๆที่มันไร้สาระ
..แต่ว่าบางทีมันก็หงุดหงิด นี่นา
เขียนโดย: Joy เมื่อ 11:38 PM 2 comments
ก็มีว่า
เด็กชายคนหนึ่งนั่งรถจอดติดไฟแดงอยู่กะพ่อ
ถามว่า ..พ่อๆ ไฟแดงมีกี่สี
พ่อว่า .. ก็มี 3 สี สิลูก
เด็ก .. ม่ายช่าย ไฟแดงก็มีสีแดงสีเดียวไงพ่อ
อิอิ
คือว่าเราก็ได้ฟังเรื่องนี้จากวิทยุในเช้าวันหนึ่ง
ก็นั่งฮา...แตก...แตน อยู่คนเดียว
และคิดว่าเป็นคำถามที่เด็ดดี
แต่ว่า
ทำไมเอาไปถามใครๆก็ตอบถูกกันหมดเลยอ่ะ
เขียนโดย: Joy เมื่อ 11:31 PM 2 comments
just a normal day
like every other days,
this evening ..
i walked around my shop,
took my car to the washing machine,
bought some ice-cream for my Changs,
chatting and laughing ..together,
wind blows
sunset...
i always think that i don't like my job,
well, ...there's always the little happiness..there,
and i like that.
"Always find the things you like in the things you do"
my quote of today :P
Always find the things you like in the things you do
--Joy
เขียนโดย: Joy เมื่อ 10:41 PM 1 comments
What is that?
If you take more than your fair share of a finite natural resource, you run up an ecological debt. If you have a lifestyle that pushes an ecosystem beyond its ability to renew itself, you run up an ecological debt.
People in power in rich countries have taken their eyes off the ball. Instead of causing misery in poor countries by forcing them to pay illegitimate financial debts, they should have been worrying about their own ecological debts.
--Ecological Debt:The Health of the Planet and the Wealth of Nations
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 12:38 AM 2 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Our Thoughts
Jul 27, 2007
Introducing new quote style to our blog...
It's better to regret something you did than something you didn't do.
—Someone
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 12:54 AM 3 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: CSS
Jul 24, 2007
โอว post ได้ง่ายๆแล้ว!!!
หลังจากบ่นไปไม่นาน เมื่อกี้ท่าน google ก็ได้ส่ง email มาที่ hotmail (เฉย) เพื่อบอกว่า "เราคิดว่าคุณไม่เป็นอันตรายต่อเราแล้ว เชิญ post ตามสบาย"
ครับ ตอนนี้ Word Verification ตอนเรา post จะหายไปแล้วครับ
เย่ๆ
Thanx, Goog.
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 2:38 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: บ่นๆๆ
Jul 23, 2007
...
ตอนที่มีข่าวนักบินตาบอดขับเครื่องบินไปนู่นไปนี่ ตามประสาคนสนใจข่าวสาร ชาวแผนกผมก็เอาข่าวนี้มาคุยกัน
(ชื่อต่างๆเป็นนามสมมติทั้งสิ้น)
ปลา: "เขาทำได้ไงนะ เก่งจัง"
ดำ: "บอดข้างเดียวป่าว หรือแกล้งบอด"
เก่ง: "เฮ้ยพี่ บอดสองข้างชัวร์ คอนเฟิร์ม"
ดำ: "เอ็งรู้ได้ไงวะ"
เก่ง: "ไม่รู้พี่ แต่บอดสองข้างชัวร์ คอนเฟิร์ม"
ดำ: "..."
ดำ: "แล้วมันไม่มีกฎหมายอะไรเหรอวะ ดูขนาดขับรถยังต้องสอบใบขับขี่กันวุ่นวาย ตาบอดสียังขับรถไม่ได้เลย"
ปลา: "ไม่เป็นไรมั้งพี่ ขับเครื่องบินไม่มีไฟเขียวไฟแดง"
เก่ง: "อืม แต่จริงๆมันก็น่าจะผิดกฎอะไรบ้างนะ"
ดำ อยากบอกน้องเรื่องโลก: "แต่จริงๆแล้วเนี่ย กฎก็คือคนว่ะ "
เก่ง-ปลา: "ยังไงพี่?"
ดำ: "จริงๆแล้วคนออกกฎและบังคับใช้กฎก็คือคนนั่นแหละ ดังนั้น กฎก็คือคน"
เก่ง-ปลา: "โอว..."
แล้วก็แยกย้ายไปทำงาน
....
ผ่านไป 3 ชั่วโมง
ดำ: "นี่ๆ พวกเอ็งรู้จัก กฎเหล็ก ป่าววะ"
เก่ง-ปลา รอดูว่าพี่ดำจะมาไม้ไหน แต่มุขควายแน่ แต่ชงไปก่อน ตามประสาคนแผนกเดียวกัน
"ยังไงพี่?"
ดำ: "ฮ่าๆ ก็นี่ไง กดเหล็ก" เอานิ้วกดเหล็กขาเก้าอี้ไว้ แล้วหัวเราะหะๆ
เก่ง: "นั่นมัน คนเหล็ก นี่พี่"
ปลา: "ใช่ๆพี่ดำ นั่นมัน คนเหล็ก"
ดำ อ๋อในใจ แต่ต้องเลยตามเลย เพราะเป็นกฎของแผนก ใครเล่นอะไรมาต้องตามน้ำ: "ยังไงวะ?"
เก่ง-ปลา:
ก็พี่ดำบอก กฎก็คือคน
—เก่ง-ปลา
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 7:12 PM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Tales from Longkong
เมื่อไหร่พระคุณท่าน Google จะเอา CAPTCHA ออกไปจากการ post ของกระผมซักกะทีคร้าบ?
ปกติแล้วการจะมี CAPTCHA นั้นจะมีเฉพาะฝั่ง comment โดยเจ้าของ blog เป็นผู้กำหนด แต่ตอนนี้ google มอง blog เราเป็น spam blog ซะงั้น ทำให้ตอนจะ post ต้องมานั่งพิมพ์ word verification อะไรให้วุ่นวายไปหมด เอาออกก็ไม่ได้ ต้อง รอตรวจสอบ แล้วจะตรวจสอบเสร็จเมื่อไหร่ฟะ บ่นๆๆ
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 8:57 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: บ่นๆๆ
Jul 21, 2007
นั่งอยู่ที่ร้าน
เงียบสนิท
ไม่มีลูกค้าเรยอ่ะ
แง
เศร้าจัง
อากาศครึ้มๆ
ฝนจะตกไหมน้า
.
.
ไปหละ
เขียนโดย: Joy เมื่อ 4:50 PM 2 comments
เกิดเป็นตัวโกงก็ซวยวันยังค่ำ
ดีโอ แบรนโด เป็นตัวละครในการ์ตูนเรื่อง โจโจ้ล่าข้ามศตวรรษ
ในการตูนเรื่องนี้ตัวละครหลักจะมีความสามารถที่เรียกว่า
ดีโอเป็นตัวโกงของเรื่องมี Stand ชื่อ The World มีพลังและความเร็วเป็นเยี่ยม จนถึงขนาดมีความสามารถไม้ตายคือ หยุดเวลาได้ ดีโอเคลื่อนที่อย่างอิสระในเวลาที่หยุดได้ประมาณ 5-6 วินาที ซึ่งแค่นั้นก็สร้างความลำบากมากมายในการต่อสู้กับดีโอของฝั่งพระเอกของเรื่อง
แต่ความลำบากของพระเอกก็คงไม่เท่ากับดีโอ เมื่อเรามาพิจารณากันจริงๆ ยกตัวอย่างตอนแรกๆที่ยังไม่มีใครรู้ความสามารถของ The World คนเขียนก็พยายามทำให้ความสามารถดูลึกลับ น่ากลัว ซึ่งนี่แหละ ทำให้ดีโอมีชีวิตลำบาก ทั้งที่มีพลังมากมาย วันนี้จะมายกตัวอย่างให้ฟังซัก 2-3 อัน
1. ตอนที่มีตัวละครตัวนึง (ลูกน้องดีโอ) อยากลองดี โดยถือปืนย่องเข้ามาในห้อง ขณะดีโอกำลังหันหลังอ่านหนังสืออยู่ใกล้ๆชั้นหนังสือ ระหว่างประตูถึงชั้นหนังสือระยะห่าง 3-4 เมตร เต็มไปด้วยใยแมงมุมมากมาย เพราะเป็นห้องที่ไม่มีใครกวาด ขณะยกปืนขึ้นจะลั่นไก ดีโอก็หายไปจากสายตาทันที รู้ตัวอีกที แว้บ มาอยู่ข้างหลัง ... เป็นไปได้ไงเนี่ย ท่านดีโอมาอยู่ข้างหลังเรา กล้องแพนไปที่ใยแมงมุม ไม่มีขาดแม้แต่้เส้นเดียว
น่าขนลุกมากๆ สำหรับตัวละครตัวนั้น และคนอ่าน ที่ยังไม่รู้ว่าดีโอหยุดเวลาได้ แต่ความลำบากของดีโอ จะมีใครเข้าใจ
ดีโอต้องพยายามวิ่งอ้อมมาด้านหลัง ระยะทาง 3-4 เมตร โดยไม่ให้ใยแมงมุมขาดและมีเวลาแค่ 5-6 วินาที มันเหนื่อยนะเฟร้ย!
2. ตัวละครฝั่งพระเอกชื่อโปลนาเรฟ เมื่อก่อนเคยเป็นพวกดีโอ เลยรู้ถึงความน่ากลัวดี (แต่ก็ไม่รู้ว่าหยุดเวลาได้) ตอนหลังมาอยู่ฝั่งพระเอก รวบรวมความกล้า เดินขึ้นบันไดไปหาดีโอ ซึ่งอยู่บนขั้นบนสุด ห่างกันประมาณ 10 ขั้น
ดีโอเล่นเกมจิตวิทยา "โปลนาเรฟเอ๋ย แกคงไม่รู้ตัวหรอกว่าใจจริงแกไม่อยากสู้กับข้า ข้าให้แกเลือกละกัน ถ้าแกตัดสินใจทิ้งชีวิตและอาจหาญมาสู้กับข้า ก็จงก้าวขึ้นบันไดมาอีกขั้น"
โปลนาเรฟ ทั้งๆที่เหงื่อแตกพลั่ก ครุ่นคิดถึงสิ่งต่างๆมากมาย ในที่สุดความกล้าก็ชนะ ตัดสินใจก้าวขึ้นบันไดไป 1 ขั้น
แว้บ!!! โปลนาเรฟรู้สึกแปลกๆ ก้มลงดูเท้า อ้าว กูก้าวลงบันไดมา 1 ขั้น ... หันขึ้นไปข้างบน ดีโอยืนกอดอกอยู่ท่าเดิม ...
ไม่ไหวแล้วโว้ย หนีก่อนดีกว่า ... เผ่นแน่บไป
แต่ความลำบากของดีโอ จะมีใครเข้าใจ
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 11:26 AM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: comics
Jul 19, 2007
เรื่องตลก มั้ง?
เรื่องตลกไม่จำเป็นต้องซับซ้อนอะไรมาก หรือบางทีก็ซับซ้อนจัดๆ
ผมชอบทุกแบบ และเล่นทุกแบบ
มันไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้อยากเป็นคนตลก ไม่ได้พยายามด้วย มันเป็นไปเอง
ผมเป็นคนจริงจังนะ (ฮา)
จริงๆแล้วความตลกไม่ตลกนั้น context มีความสำคัญมาก และอธิบายไม่ได้ด้วย เข้าขั้นศิลปะทีเดียว ที่พูดนี่ไม่ได้จะบอกว่าผมมีศิลปะในการทำตลกซักกะติ๊ด เพราะ context ไม่ใช่สิ่งที่ผมทำคนเดียว มันประกอบกันตั้งแต่ เวลา สถานที่ คนฟัง ฝั่งคนทำตลกนั้นออกแรงนิดเดียวเท่านั้น
ดังนั้นถ้าคุณบังเอิญมาอยู่ใน context นั้น แล้วเกิดขำขึ้นมา ยินดีได้เลย คุณเป็นส่วนหนึ่ง (ส่วนสำคัญด้วย) ในการสร้างความตลกนั้น
มีหลายเวลาที่ผมไม่ตลก แม้จะพยายามตลก ก็ไม่ตลก แต่บางครั้งอ่านเมนูอาหารก็ทำเอาคนขำจะเป็นจะตายได้
จากที่อ่านมาทั้งหมดนี่คงเข้าใจแล้วนะ ว่าผมไม่ใช่คนตลก คนตลกบ้าอะไรจะมานั่งเขียนเรื่องตลกเป็นจริงเป็นจังแบบนี้
คุณนั่นแหละ ถ้าวันใดคุณขำผม คุณเป็นคนตลก นะ นะ
เสียงหัวเราะของคุณๆ คือความสุขของผม เสียงหัวเราะของบางคน เป็นชีวิตผม ไปหัดหัวเราะกันมาซะ ผมจะได้หัวเราะบ้าง
.......................
จบแล้ว
.......................
เมื่อกี้อ่านการ์ตูนเรื่องอีกา ตลกดี แต่เล่าไปคงไม่ตลกเท่าไหร่ เพราะคุณไม่ได้อยู่ใน context เดียวกับผม คุณไม่ได้รู้จักตัวละครตัวนี้เท่าผม แต่ช่างมัน ผมขำก็แล้วกัน เรื่องมันก็ง่ายๆ
ชินสุเกะ "ร้านนี้มีน้ำกล้วยมั้ย?"
เด็กเสิร์ฟ "อ้า...มีครับ"
ชินสุเกะ "ใช้กล้วยสดๆใช่มั้ย?" หน้าตาดุดัน เอาเรื่อง
เด็กเสิร์ฟ ตะกุกตะกัก "ค...ครับ"
ชินสุเกะ "งั้นรึ"
"งั้นขอกาแฟเย็น"
เด็กเสิร์ฟ "..."
มุขนี้เก่า มุขนี้ซ้ำ เคยฟังแล้ว โอ๊ยเห่ย ไม่เห็นจะขำ
เรื่องของมึง!!!
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 9:35 PM 2 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Self
What are we looking for?
What are you looking for?
Happiness? Nothingness? Emptiness?
We never know.
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 6:11 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Our Thoughts
Jul 18, 2007
บรรยากาศดี อาหารอร่อย มีเน็ทฟรี
เลียบทางด่วน รามอินทรา-อาจณรงค์ จะมี plaza ชื่อ the Palm Street Place อยู่ตรงแยกเหม่งจ๋าย
ขึ้นมาบนชั้นสองจะเจอร้านสนทนาปาร์ตี้ จบ
.
.
.
ยัง!!!
เรามานั่งกันตั้งแต่ค่ำ เพลิดเพลินกับอาหารอร่อยๆ เริ่มจากกินเล่นอย่าง "กุ้งพันแฮม" ซึ่งเป็นกุ้งพันธุ์ใหม่ ใช้การตัดต่อพันธุกรรม ทำให้รสชาติเหมือนแฮม ตึก โป๊ะ!
ต่อจานสอง และ สาม อย่างไม่ยั้ง ด้วยอาหารเบสิก แต่รสอร่อยแอดวานช์อย่าง "ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่" และ "ลาบจอยทอด" โอ๊ย โดนทุบ!!! โอเค ลาบหมูทอด
อ๊ะ จานถัดมาอย่างเผ็ดเลยว่ะ "ตำสนทนาปาร์ตี้" แต่ก็แซ่บใช้ได้สำหรับคนชอบรสจัดจ้าน แต่เราขอบายกัน เพราะกระเพาะอาหารไม่เป็นใจ ...
น้ำเปล่าที่นี่อร่อยมาก อย่าลืมสั่งนะ โดยเฉพาะหลังกินตำสนทนาปาร์ตี้จะอร่อยจนแทบแย่งน้ำกันตาย
ดนตรีมาพอดี ท่าทางจะโอเค เป็นแนวอคูสติกเล่นเพลงตลาดทั่วไป มี กลองกับกีตาร์ 2 คนเท่านั้น
คำเตือนอย่างนึงคือ "อย่าสั่งน้ำส้ม" นอกจากจะ 55 บาทแล้ว มันยังซันควิกอีกด้วย ซันออฟอะควิกมากเลย เซ็ง
สรุปว่า ผ่านละกันเด้อ สำหรับสนทนาปาร์ตี้ ใช้ได้ๆ แนะนำให้ลองมากินดู ที่สำคัญใกล้ที่ทำงานจอยด้วย อิๆ
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 8:56 PM 7 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Restaurants
Jul 17, 2007
ชื่อสามัญเรียก Flame Nettle, Painted Nettle
...เป็นพันธุ์ไม้พุ่มประดับ ที่สูงประมาณ 1 เมตร เด่นด้วยสีสันของใบที่หลากหลายสวยงาม ลักษณะของใบเป็นรูปหัวใจขอบใบหยักครึ่งวงกลม เส้นใบลากขวางกลางใบ เนื้อใบไม่เรียบเสมอ ขอบใบสีเขียวสด มีสีแดงสดกลางใบ สีตัดกันสวยงาม ฤๅษีผสมมีหลากหลายสีสันของใบ ทั้งแดง ม่วง และลวดลายขลิบขอบที่งดงามนัก นิยมใช้เป็นไม้พุ่มประดับตกแต่งสวน ดอกของฤๅษีผสมผสมเป็นช่อกระจะ สีม่วงแดงมีดอกเล็กๆสีขาว มักนิยมสีสันของใบมากกว่า ชอบแดดจัด และแดดรำไร หากยิ่งรับแดดสีของใบจะยิ่งสด ชอบน้ำปานกลาง...
ข้างบนอ่านมาจากเว็บจัดสวนเว็บนึง
ความเป็นจริงยังไกลจากความฝัน
...เป็นไม้ปลูกไว้ในกระถางเล็กๆ ประดับคงลำบาก เพราะสูงประมาณ 10 เซนติเมตรเท่านั้น ใบเป็นสีเขียวมีแต้มสีแดงนิดๆตรงกลางใบ แลดูกระดำกระด่าง ลักษณะใบเป็นรูปหัวใจแหว่งๆ ดอกยังไม่มีปัญญาออก ขอเลี้ยงใบให้รอดก่อน ชอบแดดจัด เวลาเอาไปตากแดดทำท่าดี๊ด๊า เวลาเอาเข้าร่มทำท่าจะเหี่ยว ชอบน้ำปานกลาง...
รูปของจริงไม่กล้าลง เดี๋ยวเลี้ยงให้สวยๆก่อนนะฮึ่ม
สู้ต่อไป!!!
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 3:38 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Gardening
Jul 15, 2007
Norah Jones
What am I to you
Tell me darling true
To me you are the sea
Vast as you can be
And deep the shade of blue
When you're feeling low
To whom else do you go
See I cry if you hurt
I'd give you my last shirt
Because I love you so
If my sky should fall
Would you even call
Opened up my heart
I never want to part
I'm giving you the ball
If my sky should fall
Would you even call?--Norah Jones
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 9:42 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Lyrics
XL STEP
อยากจะรู้ ว่าทำไมเธอจึงไม่เคยพอใจ ไม่แคร์กับสิ่งที่ฉันทำไปทุกอย่าง
และรักที่มีให้ไป มันไม่มีความสำคัญ หรือที่ฉันให้เธอมันน้อยไป
บอกได้ไหม ว่าต้องทำอะไรให้เธอพอใจ จะทำอย่างไรให้หันมามองฉันบ้าง
อดทนกับความเฉยชา ของเธอมานานแสนนาน หรือว่าถึงเวลาที่ควรตัดใจ
หมดแล้ว ฉันรักเธอหมดใจ ทุ่มเทไปทุกอย่าง
แต่ความหวังยังดูเลื่อนลอย ไกลห่างออกไป เมื่อเธอไม่เคยมองเห็น
เหนื่อยใจ เหมือนใกล้จะหมดแรง ที่ทำไปทุกอย่าง
แต่ไม่เห็นจะมีอะไร ที่เธอต้องการ ก็คงไม่มีวันนั้นที่เธอพอใจ
หมดแล้ว ฉันรักเธอหมดใจ ทุ่มเทไปทุกอย่าง
แต่ความหวังยังดูเลื่อนลอย ไกลห่างออกไป เมื่อเธอไม่เคยมองเห็น
เหนื่อยใจ เหมือนใกล้จะหมดแรง ที่ทำไปทุกอย่าง
แต่ไม่เห็นจะมีอะไร ที่เธอต้องการ ก็คงไม่มีวันนั้นที่เธอพอใจ
ฉันเสียเวลา กับเธอมาตั้งนาน ทั้งๆที่รักเธออยู่แต่ก็ต้องไป
ถ้าฉันยังอยู่ ก็อาจจะยิ่งเสียใจ ไม่อยากเหนื่อยใจมากไปกว่านี้
หมดแล้ว ฉันรักเธอหมดใจ ทุ่มเทไปทุกอย่าง
แต่ความหวังยังดูเลื่อนลอย ไกลห่างออกไป เมื่อเธอไม่เคยมองเห็น
เหนื่อยใจ เหมือนใกล้จะหมดแรง ที่ทำไปทุกอย่าง
แต่ไม่เห็นจะมีอะไร ที่เธอต้องการ ก็คงไม่มีวันนั้นที่เธอพอใจ
ก็คงไม่มีวันนั้นที่เธอพอใจ
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 9:05 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Lyrics
อันตรายิกธรรม
อะไรหว่า ถ้าเด็กสมัยนี้ถาม ก็คงต้องไล่ไปฟังบูดาเบลส
"มนุสโสสิ อามะภันเต คนรึเปล่า ใช่ครับโอ้เย มนุสโสสิ อามะภันเต เกิดเป็นคนทั้งทีก็ทำดีกันหน่อยซิ"
ซึ่งบูดาเบลสก็เอามาจากคำถามของพระคู่สวดที่จะถามพระกำลังบวช มี 13 ข้อด้วยกัน ถ้าพระใหม่ตอบไม่ได้ ก็จะเป็นพระไม่ได้ (จริงๆก็ท่องๆกันมาแหละ หลายคนไม่รู้ความหมาย ตอบมั่วๆไป)
คำถามทั้ง 13 ข้อนั้น มีดังนี้
1. กุฎฐัง เธอเป็นโรคเรื้อนหรือไม่
2. คัณโฑ เธอเป็นโรคฝี (ในระยะที่น่าเกลียด-บริเวณที่เห็นชัด)หรือไม่
3. กิลาโส เธอเป็นโรคกลากหรือไม่ (โรคเรื้อนชนิดแห้ง)
4. โสโส เธอเป็นโรควัณโรคหรือไม่
5. อปมาโร เธอเป็นโรคลมบ้าหมู(ลมชัก)หรือไม่
6. มนุสโสสิ เธอเป็นมนุษย์แน่นะ
7. ปุริโสสิ เธอเป็นผู้ชายแน่นะ
8. ภุชิสโสสิ เธอเป็นไทแก่ตัวเองแน่นะ
9. อะนะโณสิ เธอไม่เป็นหนี้ใครแน่นะ
10. นะสิ ราชะภะโฏ เธอไม่เป็นข้าราชการแน่นะ
11. อนุญญาโตสิ มาตาปิตูหิ มารดาบิดาอนุญาตแล้วแน่นะ
12. ปะริปุณณะวีสติวัสโสสิ อายุครบ 20 ปีจริงนะ
13. ปะริปุณณันเต ปัตตะจีวะรัง มีบาตร-จีวรครบแน่นะ
ซึ่งคำถามแต่ละข้อจริงๆก็มีที่มาที่ไปทั้งสิ้น เดี๋ยวว่างๆจะเอามาเล่าให้ฟัง
คำตอบของแต่ละคำถามก็มีแค่ อามะ ภันเต (ใช่ครับโอ๊เย) กับ นัตถิ ภันเต (ไม่ใช่ครับโอ๊โน)
พอดีวันนี้แว่บไปงานบวชเพื่อนมาน่ะ ตอนเช้า
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 9:27 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Things Around Us
Jul 14, 2007
ที่บริษัทมีแม่บ้านชื่อป้าหวาน
ป้าหวานเป็นคนอุทัยธานีบ้านเดียวกับผม ทำให้เวลาคุยกันก็จะออกสำเนียงเหน่อๆกันออกมาทั้งคู่
วันนึงป้าแกมาถามน้องคนนึงในบริษัทว่า กิ๊กคืออะไร? น้องเลยถามว่า อยากรู้ไปทำไม แกบอกว่า แกรู้จักเด็กเสิร์ฟคนนึง หน้าตาดี ท่าทางน่ารัก แกไปถามเขาว่า อายุขนาดนี้แล้ว หน้าตาก็ดี ยังไม่มีผัวอีกเหรอ เด็กคนนั้นบอกว่า มีทำไมผัว มีกิ๊กดีกว่า ผัวมีได้คนเดียว กิ๊กมีได้หลายคน แกเลยอึ้งๆไป แล้วเลยมาถามน้องที่ทำงานผม
ส่วนคำอธิบาย ที่น้องคนนั้นเล่าให้ฟัง คือ
กิ๊ก = คนที่เกินเพื่ิอนไป สามารถคุยกันได้ถูกคอ มีได้มากกว่าหนึ่งคน จะมีอะไรกัน(หรือไม่มี)ก็ได้
จริงๆไม่ใช่ป้าหวานคนเดียวแฮะ ที่อึ้งๆ ผมเองก็อึ้งๆ ไม่รู้ว่าเพราะมาจากอุทัยเหมือนกัน หรือเพราะแก่แล้วเหมือนกัน(วะ)
คอนเซ็พท์นี้รับไม่ค่อยได้แฮะ แต่จะไปตัดสินถูกผิดคงไม่ใช่ ... มีลูกคงหนักใจน่าดู ไม่ว่าจะหญิง หรือ ชาย คงต้องปรับตัวรับสภาพสังคมกันพอควร
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 1:52 AM 3 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Things Around Us
Jul 12, 2007
When someone is not there, he's just not there.
ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นเช่นไรก็ตาม คนที่ไม่อยู่ก็คือคนที่ไม่อยู่
น้องชายผมโตขึ้นมา โดยพ่อไม่อยู่ สิ่งที่อยู่แทนตอนนั้นก็มีไฟฟ้า มีทีวี มีเครื่องเล่นวีดีโอ มีตู้เย็น
เรียกได้ว่าล้ำหน้าบ้านแถวนั้นไปมาก
ผมยังจำได้ว่าในหน้าหนาวผมจะเขินมากเวลาที่ใส่เสื้อกันหนาวขนสัตว์ไปโรงเรียน มันเด่นเกินไป ...
โรงเรียนที่ผมอยู่ตอนเด็กๆชื่อโรงเรียนวัดหนองมะกอก อัตราส่วนครูต่อนักเรียนสูงมากถึง 1:10 ทั้งที่มีครูแค่ 10 คน
ครับ ... โรงเรียนวัดหนองมะกอกตอนนั้นมีนักเรียนตั้งแต่อนุบาลยันประถม 6 เพียง 100 คน เท่านั้น
ลองนึกภาพ เด็กๆเข้าแถวตอนเช้า หลายคนไม่ใส่รองเท้า เสื้อผ้าเก่าๆกัน มีไอ้บ้าคนนึงใส่เสื้อกันหนาวขนสัตว์ (โอเคมารู้ทีหลังว่าเป็นเสื้อขนเทียมๆ ราคาถูกๆอะนะ)
แถมใส่รองเท้าผ้าใบ ถุงน่องตึงเปรี๊ยะ ... มันไม่เจ๋งนะ มันอายๆ ... หะๆๆ แต่ผมก็ภูมิใจที่ได้ใส่เสื้อผ้าที่พ่อแม่หามาให้
เรื่องตอนเรียน เอาไว้เล่าวันหลัง มันยาว
จริงๆบ้านปู่ตอนไม่มีไฟฟ้า ก็มีทีวีดูนะ เป็นยี่ห้อธานินทร์มั้ง ขาวดำ เวลาดูต้องใช้เครื่องรถไถเดินตามเพื่อปั่นไฟ หรือไม่ก็ใช้แบตเตอรี่รถยนต์ เสียบแทนปลั๊กไฟ
ถ้าใครเคยดูเรื่อง Always: Sunset on Third Street จะมีบรรยากาศตอนนึงที่ผมดูแล้วน้ำตาไหล (จริงๆไหลทั้งเรื่อง) คือฉากที่คนทั้งหมู่บ้านมารุมดูทีวีขาวดำเครื่องเล็กๆ แล้วให้ความรู้สึกว่าดูจอใหญ่ๆ (ใครไม่เคยดูไปหามาดูซะ ดูแล้วจะอยากมีครอบครัว)
ทีวีสีเครื่องใหม่ที่บ้านใหม่ ผมนั่งดู นั่งเล่น กับมัน กับเครื่องเล่นวีดีโอด้วย ตอนนั้นดูได้แค่ช่อง 5 กับ ช่อง 7 ในใจผมนั้น โลกใบเล็กๆตอนนั้นมีแค่ทีวี 2 ช่องนี่แหละ จนมาวันหนึ่งมีเรื่องประหลาดมหัศจรรย์เกิดขึ้นกับชีวิตผม ผมค้นพบช่อง 3 ....
มันเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ของโลกในตอนนั้น ผมไม่รู้ว่ามีลงหนังสือพิมพ์หรือปล่าว เหมือนการการค้นยิ่งใหญ่อื่นๆ ผมพบมันโดยบังเอิญขณะกำลังปรับทีวีที่ ไม่แจ่ม (ภาษาอุทัยวันละคำ 2 คำ ไม่แจ่ม = ไม่ชัด) อยู่ๆก็มีรายการทีวีที่ผมไม่รู้จักโผล่มาให้ดู ผมดีใจสุดแสน แต่ไม่รู้จะไปบอกใคร ในใจก็คิดว่าผมต้องทำได้อีก แล้วผมก็เริ่มปรับทีวีอีก ในที่สุด ผมก็ค้นพบช่อง 9!!!! ช่อง 3 ว่าสุดยอดแล้ว แต่ช่อง 9 นี่มัน โห มีการ์ตูนดูเพียบเลย ผมรู้สึกเหมือนผมสร้างทีวี 2 ช่องนั้นขึ้นมาเอง ส่วนช่อง 5 กับ 7นี่ ปู่คงทำขึ้นมา (ฮา)
มารู้ตอนหลังว่าจริงๆก็แค่ทีวีมาเปิดสถานีใหม่ใกล้ๆบ้าน ทำให้รับได้หลายช่องขึ้น ผมก็เซ็งไปเลย พอเจอช่อง 11 ก็เลยเฉยๆ
.... to be continued ...
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 11:03 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Our Thoughts
As I said...
Now we're in the future.
We look back to That Very Day and laugh!
I love you, and thank you for everything you've done.
Thank god.
From now on ... let us remember This Very Day instead and kiss the past goodbye.
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 7:30 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Things Around Us
Jul 11, 2007
Words and music by brian may
It started off so well
They said we made a perfect pair
I clothed myself in your glory and your love
How I loved you
How I cried...
The years of care and loyalty
We're nothing but a shame it seems
The years believe we lived a lie
I love you till I die
Save me save me save me
I cant face this life alone
Save me save me save me...
I'm naked and I'm far from home
The slate will soon be clean
Ill erase the memories
To start again with somebody new
Was it all wasted
All that love? ...
I hang my head and I advertise
A soul for sale or rent
I have no heart Im cold inside
I have no real intent
Save me save me save me
I cant face this life alone
Save me save me save me...
I'm naked and I'm far from home
Each night I cry I still believe the lie
I love you till I die
Save me save me save me
Don't let me face my life alone
Save me save me ooh...
I'm naked and I'm far from home
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 4:54 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Lyrics
There was a monster inside me.
There was a monster outside me.
There was a wall between the two.
They were sitting, waiting for the time to meet each other.
They were longed for their lovers.
Eager for the meeting, the one inside tried to break the wall.
So thick the wall, the one inside died trying.
The one outside is still crying.
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 8:04 AM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Self
hey i'm joy, in the name of yours.
:D
(i forgot my password so
i would say who am i every time i steal ur password naja)
i like your stories
a lot
and i miss you
a lot
...
have another nice working day
..from now on we'll be ok.
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 10:24 AM 1 comments
Jul 9, 2007
Fugu
Deeper everyday,
O I'm in love I'm in love
And I've longed for today
I've been around I've been down
And I found on my way
Reborn everyday
And there's nothing to say.
O I'm in love I'm in love
How I longed for today
I've been told I've cold
But I've come here to stay
Different everyday
From now on I'll be okay
I know I know you think it's going way too fast
You know I've found what I was looking for at last
I can feel it this time
And it's something that I can't fake
CHORUS :
I'm in love I'm in love I'm in love
Here today
I'm in love I'm in love I'm in love
All the way
VERSE :
O by your side I've got nothing to hide
Or to blame
I don't care what I'm leaving behind
I'll remain
Deeper everyday
From now on I'll be okay
I know I know you think it's going way too fast
You know I've found what I was looking for at last
I can feel it this time
And it's something that I can't fake
BRIDGE :
(This is a place
I can embrace
This is the right place) X2
CHORUS :
I'm in love I'm in love I'm in love
Here today
I'm in love I'm in love I'm in love
All the way
Reborn everyday
From now on I'll be okay
I know I know you think it's going way too fast
You know I've found what I was looking for at last
I can feel it this time
'Cause it's something that I can't fake.
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 11:36 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Lyrics
ตอนแรกกะจะเขียนภาษาอังกฤษ แต่ช่างมันละกัน เขียนไทยมันกว่า เราคนไทย ใช้ภาษาไทยเด้อ
ตอนนี้ผมอายุ ... (เติมเอาเอง) ปีแล้ว เข้ามาอยู่กรุงเทพนานมากแล้ว จนชาชินกับชีวิตในเมือง
ชีวิตตลกๆ ที่ผมก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 9:06 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Our Thoughts
Jul 8, 2007
All the pain will be gone and we will be stronger.
Sometime in the future we'll look back and laugh at what happened today.
For now, just a hug will save us.
จริงอยู่ ทุกอย่างสองเรานั้นรู้ไม่จำเป็นต้องบอก
ฉันเชื่อ คุณค่าจิตใจนั้นเหนือกว่าสิ่งไหน
รู้ดี และไม่ต้องการพิธีอะไรที่มากมาย
เพราะเข้าใจ มั่นใจในเธอทุกครั้งตลอดมา
แต่ว่าวันนี้ สิ่งที่ฉันเป็นมันต่างจากวันนั้น
ทั้งที่จิตใจฉันเองอยากจะเข้มแข็ง
แต่ว่าเรี่ยวแรง บอกว่าฉันคงทนเข้าใจเธอไม่ได้
รู้สึกอ่อนล้า จนใจฉันกลัวจะทนไม่ไหว
โปรดเถอะนะ แสดงว่าเธอรักสักครั้งหนึ่ง
ให้ฉันได้ซึ้งถึงความรักบ้าง
กอดจูบฉันเบาๆ เหมือนที่เธอเคยเมื่อก่อน
โปรดช่วยย้อนให้ความจำ และช่วยย้ำให้ฉันมั่นใจอีกที
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 11:59 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Things Around Us
Feb 17, 2007
..คัดลอกมาจากบทสัมภาษณ์ผู้บริหารนิตยสารรักลูก...
องค์กรของเรามีจุดยืนที่ชัดเจนว่า
ธุรกิจของเราจะไม่แสวงหากำไรสูงสุด
แต่เราเชื่อว่า เราจะต้องใส่ใจในทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง
นั่นคือ งาน จะต้องเป็นงานที่สร้างประโยชน์ให้สังคม
พนักงานได้รับโอกาสที่เปิดกว้าง ได้ทำงานตรงกับความรักความใฝ่ฝันของตน
ลูกค้าหรือซับพลายเออร์ ก็ต้องได้ประโยชน์ร่วมจากการทำงาน
จะเน้นเรื่องความคิดความสัมพันธ์
เน้นเรื่องทัศนคติ เรื่องใหญ่ที่สุดคือ ทัศนะของการอยู่ร่วมกัน
แลกเปลี่ยน ร่วมงาน
เราร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน
หลักในการทำงานคือ คนยิ่งทำต้องยิ่งเก่ง และ
คนยิ่งทำต้องยิ่งดีขึ้น
พนักงานต้องเข้าใจเรื่องชีวิตมากขึ้น
และทุกๆครั้งที่เจอปัญหา เราจะกลับไปตอบคำถามว่า
องค์กรนี้มีไว้เพื่ออะไร
แล้วทุกอย่างจะคลี่คลาย ...
:)
เขียนโดย: Joy เมื่อ 12:50 PM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Our Thoughts
Feb 5, 2007
ความฝันที่อาจดูไร้สาระสำหรับผู้อื่น
...หากแต่ภาพนั้นมีความหมายที่ชัดแจ้งในใจ
...ก็จงใช้ฝันนี้ประคองตัวและใจจนสุดทาง
...ฝันบางฝันนั้นใช้เวลาและความทุ่มเทที่ยาก ...และยาวนาน
......แต่ผลของมันหวานชื่นเสมอ...
เขียนโดย: Joy เมื่อ 9:13 PM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Our Thoughts
Jan 21, 2007
It is "difficult" to get a man to understand something
when his salary depends upon his "not understanding" it.
เขียนโดย: Joy เมื่อ 10:49 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Things Around Us
"While you pray, move your feet"
from An Inconvenient Truth
.............
เขียนโดย: Joy เมื่อ 10:38 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Things Around Us
Jan 18, 2007
ตามคำขอ
1.ไม่ถูกกับแมลงสาบนัก ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ แค่ได้ยินเสียงเดินก็ขนลุกแล้ว
2.กลัวความสูงนิดหน่อย ไม่ถึงกับช็อกตาย แต่ก็ขอหลีกเลี่ยงที่สูงๆ ดังนั้นจะไม่สามารถยืนอยู่แถวๆกลางห้างสรรพสินค้าตรงบันไดที่มองเห็นข้างล่างได้
3.ขี้กัด ชอบติ มองละเอียดเวลาจะด่า แต่ส่วนใหญ่ในชีวิตกลับมองหยาบๆ เช่นเวลาเห็นร้านอาหารทำสกปรกจะติ แต่ปกติกินของตกพื้นได้
4.อ่านทำนองเสนาะได้ดี เคยประกวดมาหลายงานมากๆั้ตั้้งแต่เด็ก
5.ตลกที่อื่น เครียดที่บ้าน อันนี้อยากจะแก้มากๆเลย ตัดสินใจแล้วว่าข้อ 5 นี้จะต้องหมดไป เพื่อคนใกล้ชิดจะได้สบายใจ
มากกว่า 5 ข้อได้ไหมอะ กำลังมันปาก
ขอแท็คใครดีหว่า เอาไอ้ตู้ละกัน
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 5:10 PM 1 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Self
Jan 17, 2007
ให้มาเขียน บล็อคแท็ก ...เขียนก็ได้ (ฟะ)
(การแท็คคืออะไร..? คนที่โดนแท็ค จะต้องเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเอง 5 ข้อที่เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยซึ่งคนทั่วไปอาจจะไม่รู้และแท็คต่อไปอีก 5 คน)
เรื่องของเราเท่าที่คิดออก มีดังนี้
1. การขับรถ เพื่อนที่นั่งรถไปด้วยจะชอบบอกว่าต้องใส่หมวกกันน็อคด้วย และมักจะมีเรื่องให้ต้องลุ้นเสมอ บ้างก็ต้องคอยเป็นผู้ช่วยขับ คอยมองซ้ายมองขวาให้ ขับช่วงปีแรกๆจะชนบ่อยๆ จนคุ้นเคยกับประกันดี ยังดีที่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรุนแรงมากนัก แต่อย่างไรก็ดีชนมาแล้วทั้งในจุฬาก็ดี ภายในบริษัทตัวเองก็ดี แต่ไม่เคยเข้าใจเหมือนกันว่าในการชนทุกครั้ง ตามสถิติแล้วไม่เคยเป็นฝ่ายถูกเลยอ่ะ แล้วอยู่ดีๆรถก็จะชอบมีรอยๆ ซึ่งก็ไม่เคยรู้เลยว่ามันไปโดนอะไรมา
อื่นๆก็มีเคยเปิดไฟหน้าทิ้งไว้จนแบตหมด ...อืม แค่นี้ล่ะมั้ง เรื่องการขับอันสนุกสนาน
2. การกิน เป็นคนไม่ค่อยรู้รสว่ามันอร่อยไม้ ไม่เคยกินอะไรแล้วอร่อยที่สุดในโลกเลยอ่ะ ถ้าถามว่าอันไหนอร่อยกว่าก็มักจะตอบมั่วๆไป กินก๋วยเตี๋ยวก็ไม่ค่อยปรุง คาดว่านี่น่าจะเป็นสาเหตุของการเป็นคนทำกับข้าวไม่ค่อยอร่อย อิอิ
3. การยิ้ม ชอบมีคนถามว่ามองเห็นไหมเวลายิ้มน่ะ คือว่า ก็เห็นนะ ยังไงดีอ่ะ จริงๆก็เห็นไม่ชัดหรอก แต่ว่ามันเป็นช่วงสั้นๆเลยไม่ค่อยสังเกตอ่ะ มันก็เห็นเหมือนเดิมน่ะ
4. การเดินป่า ชอบไปเที่ยวป่า น้ำตก อะไรแบบนี้อยู่ มีอยู่ช่วงนึงก็ไปบ่อยๆ ไปมาแล้วหลายอุทยานมากๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมมันก็เดินป่าไม่ค่อยชำนาญสักที คือว่ามันจะเดินได้ช้า และก็ชอบลื่นๆ ทรงตัวไม่ค่อยคล่อง ต้องเป็นที่ให้เป็นห่วงของคนอื่นตลอด สงสัยคงต้องฝึกให้มากๆ กว่านี้อีก
5. เรื่องการเดิน มีแต่คนบอกว่าเดินเหมือนผู้ชาย หลังค่อมด้วย ก็มันเป็นยังงี้มาตั้งนานแล้ว คงไม่ต้องแก้แล้วล่ะ
-จบข่าว-
ไม่รู้จะแท็คใคร ไม่มีคนในลิสต์เลย
แท็คคนร่วมบล็อคละกัน มาเขียนด้วยเด้อ
เขียนโดย: Joy เมื่อ 11:44 PM 2 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Self
Jan 13, 2007
Artist: Guns N' Roses Lyrics
(Slash / McKagan / Rose)
Special Thanks Niven / James
"What we've got here is failure to communicate.
Some men you just can't reach...
So, you get what we had here last week,
which is the way he wants it!
Well, he gets it!
N' I don't like it any more than you men." *
Look at your young men fighting
Look at your women crying
Look at your young men dying
The way they've always done before
Look at the hate we're breeding
Look at the fear we're feeding
Look at the lives we're leading
The way we've always done before
My hands are tied
The billions shift from side to side
And the wars go on with brainwashed pride
For the love of God and our human rights
And all these things are swept aside
By bloody hands time can't deny
And are washed away by your genocide
And history hides the lies of our civil wars
D'you wear a black armband
When they shot the man
Who said "Peace could last forever"
And in my first memories
They shot Kennedy
I went numb when I learned to see
So I never fell for Vietnam
We got the wall of D.C. to remind us all
That you can't trust freedom
When it's not in your hands
When everybody's fightin'
For their promised land
And
I don't need your civil war
It feeds the rich while it buries the poor
Your power hungry sellin' soldiers
In a human grocery store
Ain't that fresh
I don't need your civil war
Look at the shoes your filling
Look at the blood we're spilling
Look at the world we're killing
The way we've always done before
Look in the doubt we've wallowed
Look at the leaders we've followed
Look at the lies we've swallowed
And I don't want to hear no more
My hands are tied
For all I've seen has changed my mind
But still the wars go on as the years go by
With no love of God or human rights
'Cause all these dreams are swept aside
By bloody hands of the hypnotized
Who carry the cross of homicide
And history bears the scars of our civil wars
"We practice selective annihilation of mayors
And government officials
For example to create a vacuum
Then we fill that vacuum
As popular war advances
Peace is closer" **
I don't need your civil war
It feeds the rich while it buries the poor
Your power hungry sellin' soldiers
In a human grocery store
Ain't that fresh
And I don't need your civil war
I don't need your civil war
I don't need your civil war
Your power hungry sellin' soldiers
In a human grocery store
Ain't that fresh
I don't need your civil war
I don't need one more war
I don't need one more war
Whaz so civil 'bout war anyway
เขียนโดย: KRISS เมื่อ 12:00 PM 0 comments
อ่านเรื่องคล้ายกันใน: Lyrics