Aug 7, 2007
แท็กซี่ตีกอล์ฟ
Aug 7, 2007
เมื่อคืน ด้วยความเหงาๆ ผมขี่จักรยานคันโปรด (อย่างกับมีหลายคัน) ออกจากบ้านไปเรื่อยเปื่อย จากศรีสมาน ไปติวานนท์ ออกรังสิต-ปทุมธานี ไปถึงสถานีรถไฟรังสิตแล้วเข้า local road จนถึงวัดดอนเมืองแล้วก็เลี้ยวเข้าสรงประภา กลับบ้าน
ใช้เวลาไป 3 ชั่วโมง ออกจากบ้าน 4 ทุ่ม กลับถึงบ้านตีหนึ่ง ได้ผ่อนคลายอารมณ์บ้าง
ระหว่างทางเนื่องจากเป็นชานเมือง อากาศก็จะเย็นสบาย สดชื่นตลอดทาง ติดตรงที่ทางบางตอนไม่มีไฟทำให้มืดและดูน่ากลัวอยู่บ้าง
ผมได้เห็นชีวิตกลางคืนมากมายสองข้างทาง และพอได้ขี่ไปดูพื้นที่จริงแบบนี้ทำให้เห็นว่ามีชุมชนอยู่ในระยะห่างไม่เกิน 1 กิโลเมตรตลอดทาง ศูนย์รวมชุมชนก็จะเป็นร้านสะดวกซื้อโดยเฉพาะเซเว่น และหน้าเซเว่นก็จะมีร้านก๋วยเตี๋ยว หรือไม่ก็ส้มตำที่คนเต็มทุกโต๊ะ บางจุดมีแม้แต่ตลาดนัด (ตอนผมผ่านก็ 5 ทุ่มกว่าแล้ว ตลาดยังไม่วาย)
ผมมีความรู้สึกอะไรบางอย่างเกิดขึ้นมา ชานเมืองไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวดึ๊งดึ่งแดนซ์กระจาย คนส่วนใหญ่ที่ีไม่หลับไม่นอนกันนั้น คือคนงานกะดึก ไม่ก็เพิ่งเลิกจากการทำโอทีจากนิคมอุตสาหกรรมแถวนั้น ความรู้สึกบางอย่างนั้นคือความคุ้นเคยนั่นเอง
คนเหล่านั้นมาจากต่างจังหวัด ครอบครัวไม่มีกะตัง เข้ามาทำงานเพื่อหาเงินหวังเลื่อนชั้นจากชั้นล่างเป็นชั้นกลาง และแอบหวังลึกๆว่าซักวันจะเป็นชั้นสูง อย่างเลวก็รุ่นลูกหลานละวะ หนึ่งในคนเหล่านั้นก็คือผม นั่นเอง
ชั้นล่าง ชั้นกลาง ชั้นบน ล้วนเป็นคำนิยามของคนเมืองเอาไว้ตีค่าแบ่งกลุ่มกัน ตามฐานะทางการเงิน ไม่ก็ความสามารถทางการจ่ายภาษี คนบ้านนอกบ้านนาอยู่บ้านนอกบ้านนาก็เป็นไอ้ดำบ้านหนองกระทุ่ม ไอ้แดงลูกตาเหมือน ไม่เคยเป็นชนชั้นสูงกลางต่ำอะไร แต่อยู่ๆก็เดินทางเข้าเมืองมาให้เขาวัดว่าเป็นระดับต่ำ
ขี่มาเรื่อยๆเหลือบไปเห็นสนามกอล์ฟ และก่อนหน้าสนามกอล์ฟประมาณ 200 เมตร มีเพิงพักที่เป็นที่จอดแท็กซี่ เห็นแท็กซี่จอดอยู่ 3-4 คัน และเหล่าแท็กซี่กำลังซ้อมพัทกันอยู่ ผมคิดถึงพ่อขึ้นมา พ่อผมเป็นคนขับรถส่งเจ้านายตามโรงงาน ญี่ปุ่นบ้าง ฝรั่งบ้าง ฐานะการเงินและสังคมก็คงพอๆกับแท็กซี่ และพ่อก็อยากตีกอล์ฟมาก มีถุงไม้กอล์ฟอยู่หลายชุด (ที่บ้านผมก็ได้มาชุดนึง) ซึ่งถ้าพูดกันจริงๆแล้ว ฐานะอย่างพวกผมตอนนี้ คงไปออกรอบแบบคนรวยๆเขาไม่ได้ ทำได้ก็แค่ไปเช่า range มาไดรฟ์ กับลูกถาดสองถาดเท่านั้นเอง
มันเป็นเกมของเขานะพ่อ ไม่ใช่เตะบอลในทุ่งนาแบบบ้านเรา เรามาเล่นในเกมของเขาก็เป็นได้แค่นี้ ต่อให้ไต่ฐานะขึ้นไปถึงไหนๆ ก็ไม่วายโดนเขาดูถูกอยู่ดี
พวกเราเข้ากรุงเทพมาให้คนดูถูกฐานะ ทั้งๆที่อยู่บ้านเรามีชีวิตอย่างสบาย เข้ามาไต่ฐานะเลื่อนชั้นตามเกมของคนเมืองเขา ลองคนเมืองเข้าบ้านนอกบ้าง ถ้าไม่ใช้เงินซื้อเอาตามเกมเขา ก็คงหากินลำบาก จะจับปลา หาผัก หาเห็ดเหมือนเราก็คงไม่ได้นะพ่อนะ
ผมก็คงสู้ต่อไปในเกมนี้สักพัก เพราะผมไม่ได้อยู่คนเดียวอีกแล้ว มีคนใกล้ชิดที่อยู่คนละเกมกัน จะลากเขามาเกมผมก็คงไม่เหมาะนัก
คำโบราณว่าก็มีส่วนจริงนะ เรื่องคู่สมฐานะ และอะไรต่างๆ ที่ถ้ามองตามแบบนิยายรักก็คงจะบอกว่า เฮ้ย มันอยู่ที่ใจ แต่ความจริงไม่ใช่นิยาย ใครเล่นข้ามเกมก็ต้องเจ็บกันบ้างไม่มากก็น้อย
เอ้า! เล่นกันต่อไปเว้ยเฮ้ย
No comments:
Post a Comment